วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Bertone Pandion : สปอร์ตสุดล้ำมีดีที่ประตู


Bertone Pandion : สปอร์ตสุดล้ำมีดีที่ประตู
24 มิถุนายนปีนี้ อัลฟา โรมีโอ แบรนด์รถยนต์สัญชาติอิตาเลี่ยนจากฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งบริษัท และแน่นอนว่าช่วงเวลาของความพิเศษในครั้งนี้ ทางสำนักออกแบบ 2 แห่งใหญ่ของอิตาลีอย่างพินฟารินา และเบอร์โทเนต่างพัฒนาต้นแบบรุ่นใหม่ๆ ออกมาฉลองในวาระพิเศษของอัลฟาครั้งนี้ด้วย

เพราะอัลฟาถือเป็นลูกค้าชั้นดีที่เคยทำงานร่วมกับสำนักออกแบบทั้ง 2 แห่งมาแล้ว โดยผลผลิตทั้ง 2 คันถูกเปิดตัวใน “เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2010 “ ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 4-14 มีนาคมที่ผ่านมา

เริ่มกันที่เบอร์โทเน สำนักออกแบบที่ร้างราจากการเข้าร่วมงานนี้มา 2 ปีเต็มเพราะปัญหาทางด้านการเงินก็มากับต้นแบบรุ่น Pandion สวยล้ำสมัยขนาดพอเหมาะด้วยความยาว 4,620 มิลลิเมตร กว้าง 1,971 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,850 มิลลิเมตร โดยถือเป็นผลงานออกแบบของไมค์ โรบินสัน หัวหน้าทีมออกแบบคนใหม่ของทางเบอร์โทเนที่พัฒนาโดยอิงพื้นฐานต่อเนื่องมาจากสปอร์ตรุ่น 8C Competizione ส่วนเครื่องยนต์ก็เป็นเบนซินวี8 4,700 ซีซี 450 แรงม้า

สำหรับชื่อรุ่นเป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ของเหยี่ยวทะเลพันธุ์หนึ่ง ที่ทำรังอยู่ตามชายฝั่งซึ่งมีชื่อเต็มว่า Padion Haliaetus และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางเบอร์โทเนนำชื่อทางวิทยาศาสตร์ของสัตว์หรือสิ่งที่อยู่ในธรรมชาติมาใช้ในการตั้งชื่อรุ่นรถยนต์ต้นแบบ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีทั้ง Corvair Testudo (เต่าทะเล-1963), Alfa Romeo Canguro (จิงโจ้-1964), Carabo (นกเค้าแมว-1968) และ Delfino (ปลาโลมา-1983)

นอกจากนั้น ชื่อนี้ก็มีส่วนเกี่ยวพันกับการออกแบบของตัวรถ เพราะด้วยลักษณะการเปิดประตูที่มีลักษณะยกเฉียงไปทางด้านหลังและสามารถตั้งขึ้นสูงทำมุม 90 องศากับตัวรถ ซึ่งเมื่อวัดความสูงโดยรวมของตัวรถและประตูที่ตั้งชันขึ้นมาแล้วมากถึง 3.6 เมตรเลยทีเดียว โดยเป็นไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับประตูแบบ Scissor Door (คล้ายกับลัมบอร์กินี ไดอะโบล) ซึ่งจะเปิดประตูในลักษณะเฉียงไปทางด้านหน้า

โดยข้อต่อของบานประตูนี้จะเชื่อมต่อกับซุ้มล้อหลัง ทำให้มองดูแล้วคล้ายกับนกกำลังกางปีกออกมา ซึ่งทางโรบินสันได้นำเอากายวิภาคการทำงานของปีกเหยี่ยวทะเลพันธุ์นี้มาประยุกต์ใช้กับการเปิดประตูของสปอร์ต้นแบบรุ่นนี้ และให้ความปลอดภัยแบบสุดๆ เพราะเมื่อพลาดท่าขับตีลังกา บานประตูถูกออกแบบให้สลัดหลุดจากตัวรถได้เลย และทำให้ผู้ขับหรือผู้โดยสารที่อยู่ด้านในสามารถออกจากห้องโดยสารได้โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์งัดแงะใดๆ

อีกทั้งรูปลักษณ์ด้านหน้าก็เน้นความสวยสปอร์ตและได้รับอิทธิพลจากการออกแบบของส่วนหัวของเหยี่ยวพันธุ์นี้ด้วยเช่นกัน และทางโรบินสันบอกว่า สไตล์การออกแบบเช่นนี้น่าจะเหมาะสมสำหรับเป็นแนวทางการออกแบบสไตล์ใหม่ของรถยนต์อัลฟาในอนาคต
ซึ่งจะว่าไปแล้ว ทางเบอร์โทเนถือเป็นผู้นำแฟชั่นในการคิดค้นรูปแบบของการเปิดประตูที่ไม่เหมือนใคร และต้นแบบในอดีตที่สร้างความฮือฮามาแล้ว ก็เช่น 1968 Alfa Romeo Carabo, 1970 Lancia Stratos 0, 1972 Lamborghini Countach และ 2007 Fiat Barchetta

นอกจากนั้น สไตล์การสร้างสรรค์ตามจุดต่างๆ ของตัวรถยังสอดคล้องกับความเป็นอัลฟา ไม่ว่าจะเป็น Theme การออกแบบตัวรถที่เรียกว่า Skin&Frame ที่สื่อถึงงู และคบเพลิง ซึ่งเป็นโลโก้ของอัลฟา เพื่อให้สัมผัสที่พิเศษซึ่งสื่อออกมาถึงความเป็นอัลฟาอย่างแท้จริง
ส่วนในห้องโดยสารเน้นความสวยล้ำสมัยด้วยการเล่นโทนสีและการเลือกใช้วัสดุที่แปลกใหม่ในการตกแต่ง โดยตัวรถมากับสไตล์ 2+2 ที่นั่ง ส่วนเบาะหน้ามีความพิเศษในด้านการออกแบบ เพราะตัวเบาะถูกออกแบบให้มีความบางเฉียบทั้งตัวที่นั่งและพนักพิงหลัง ซึ่งมีความหนาตลอดทั้งตัวเบาะเพียง 30 มิลลิเมตร ทำให้พื้นที่ของเบาะด้านหลังเพิ่มขึ้นไปโดยปริยาย ซึ่งโครงสร้างของตัวเบาะผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ และใช้ Technogel ในการขึ้นรูปเพื่อให้มีทั้งความแข็งแกร่งและเบา ก่อนจะใช้วัสดุที่เรียกว่าใย reLIGHT หุ้มตลอดทั้งตัว

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์