วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เผยโฉม New Honda Accord/Inspire รุ่นปี 2011 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น

เผยโฉม New Honda Accord/Inspire รุ่นปี 2011 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ตอกย้ำกลยุทธ์โคลนนิ่งเพื่อลดต้นทุน วันนี้ Honda ได้เปิดตัว Accord รุ่นปี 2011 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ซึ่งทำตลาดในแดนซามูไรภายใต้ชื่อรุ่นว่า Inspire การเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อนหน้านี้เกิดขึ้นที่ด้านหน้าซึ่งมีการใช้แผงกระจังและกันชนเหมือนกับ Accord เวอร์ชั่นอเมริกา เพียงแต่มีแถบโครเมี่ยมเพิ่มเข้ามาตรงส่วนล่างของกระจังเท่านั้น ของใหม่อีกอย่างก็คือ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขอบ 17 นิ้ว จะว่าไปแล้ว Honda Accord/Inspire เจนเนอเรชั่นปัจจุบันทั้งเวอร์ชั่นยุโรป อเมริกา ยุโรป หรือแม้แต่ของบ้านเรา มีรูปลักษณ์ใกล้เคียงกันมากจนพอจะบอกได้เลยว่า Accord รุ่นปี 2011 ของไทย โดยรวมก็จะมีหน้าตาไม่ต่างไปจากเวอร์ชั่นที่เห็นอยู่นี้ อาจจะแตกต่างกันก็เพียงในรายละเอียดเล็กน้อย ต่างจากสมัยก่อนที่มักจะออกแบบกันใหม่เป็นว่าเล่นเอาใจตลาดที่มีรสนิยมแตกต่างกันไป แต่การทำเช่นนั้นย่อมทำให้ต้นทุนการผลิตสูงเกินความจำเป็น โดยเฉพาะในสภาพการแข่งขันที่สูงภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก
เมื่อเข้าไปชมภายในห้องโดยสารจะพบว่า Honda เน้นการแต่งด้วยวัสดุลายไม้มากเป็นพิเศษ ซึ่งมีตั้งแต่พวงมาลัย คอนโซลกลาง คอนโซลช่วงล่าง คอนโซลหลัง และแผงข้างประตูตามที่เห็นในภาพ
สำหรับการเปลี่ยนแปลงใต้ฝากระโปรง Accord/Inspire รุ่นนี้มีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร 280 แรงม้า ที่ประหยัดน้ำมันมากขึ้นซึ่งเกิดจากการปรับปรุงในบางจุด โดยเป็นเครื่องยนต์ทางเลือกเพียงรุ่นเดียวที่มีอยู่ในขณะนี้ จบด้วยการที่ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติได้กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับ Accord/Inspire รุ่นนี้ไปแล้วครับ
ที่มา autospinn

ชุดแต่ง Nissan March จาก ไทย วี.พี. ออโต้เซอร์วิส


Nissan March หล่อแกร่ง ดูแรงรอบคัน ด้วยชุดแต่ง Parto จาก ไทย วี.พี. ออโต้เซอร์วิส บริษัท ไทย วี.พี. ออโต้เซอร์วิส จำกัด ผู้จำหน่ายชุดแต่ง Parto ได้ออกชุดแต่งรอบคันสำหรับ Nissan March รถเล็กยอดนิยมของปี 2010 ซึ่งชุดแต่งดังกล่าวประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า หลัง และข้าง ที่ช่วยทำให้รถน่ารักรุ่นนี้ดูแกร่งขึ้นมาทันตาเห็น เสียดายที่ไม่มีดิฟฟิวเซอร์หลังเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้รถรุ่นนี้ แต่อาจจะเพราะถ้าแต่งมากราคาก็จะสูงจนความต้องการมีน้อย สำหรับในเรื่องของราคาไม่มีการเปิดเผยครับ

ที่มา: ไทย วี.พี. ออโต้เซอร์วิส ,www.autospinn.com

ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'

ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'เซียนรถผิดหวัง เมื่อ “เฟียสต้า ดีเซล” แทบปิดโอกาสทำตลาดในไทย แม้ปัจจุบันโรงงานเอเอที จังหวัดระยอง จะผลิตเพื่อส่งออกควบคู่ไปกับตัวเบนซินอยู่แล้ว โดย “บิ๊กฟอร์ด” เผย “เฟียสต้า ดีเซล” มีแต่เกียร์ธรรมดา เชื่อว่าคนไทยไม่นิยม แถมรัฐบาลไม่เอื้อภาษีเหมือนรถยนต์เบนซิน หรือแก๊สโซฮอล์ อี20 ดังนั้นถ้าขายจริงต้องโดนภาษีสรรพสามิตเต็มที่ 30% ประกอบกับต้นทุนผลิตเครื่องยนต์ดีเซลแพง จึงไม่สามารถทำราคาให้น่าสนใจ หรือมีโอกาสทะลุ 8 แสนบาท งานนี้เลยต้องพับแผน มุ่งทำตลาดเบนซิน 1.4 และ 1.6 เกียร์ดูอัลคลัตซ์ พร้อมลุยทั่วประเทศ 2 กันยายนนี้
เลิกนับวันรอ พ.ศ.ที่คิดถึง เพราะ 2 กันยายนนี้ “ฟอร์ด เฟียสต้า” มีกำหนดเปิดตัวพร้อมลงโชว์รูมทั่วประเทศอย่างเป็นทางการ หลังจากทยอยโหมกระแสสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภค และเปิดเผยข้อมูล-ราคาขาย ก่อนหน้าร่วมเดือน เรียกว่าฟอร์ดพยายามทำทุกทางเพื่อยื้อใจลูกค้า ไม่ให้ด่วนลงเอยไปกับบรรดาแบรนด์ญี่ปุ่นเจ้าตลาด รวมถึงเพื่อนซี้โรงคลอดเดียวกันอย่างมาสด้า 2 ที่กำลังโกยยอดขายเป็นว่าเล่น
“ฟอร์ด เฟียสต้า” พยายามชูจุดเด่นทางเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร Ti-VCT เกียร์ดูอัลคลัตซ์ 6 สปีด ที่สำคัญอัดออปชันความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเพียบ แต่จ่ายราคาเทียบเท่าคู่แข่ง ขณะเดียวกัน ยังสอดแทรกเครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร เกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ 4 สปีด ราคาเพียง 5.29-5.74 แสนบาท หวังเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าที่ต้องการความคุ้มค่า
...แม้ฟอร์ดจะพยายามปิดช่องว่างโปรดักต์ โดยนำเสนอทางเลือกแตกต่าง หลากหลายราคา แต่ยังมีคำถามไม่น้อยว่าทำไม ฟอร์ด ประเทศไทย ถึงไม่นำเครื่องยนต์ดีเซล ที่ขึ้นชื่อเรื่องสมรรถนะพร้อมการประหยัดน้ำมัน มาประทับในเฟียสต้าและขายควบคู่ไปกับเครื่องยนต์เบนซิน เพราะจริงๆ โรงงาน ออโต้อัลลายแอนซ์ (เอเอที) จังหวัดระยองก็ทำการผลิต “เฟียสต้า ดีเซล” เพื่อส่งออกอยู่แล้ว
ประเด็นนี้ “สาโรช เกียรติเฟื่องฟู” รองประธานอาวุโส ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า ฟอร์ดไม่ได้มองข้ามความต้องการของลูกค้า เพราะจริงๆแล้ว ฟอร์ดถือเป็นผู้นำด้านพลังงานทางเลือก และที่ผ่านมาได้นำเครื่องยนต์ดีเซลวางในเก๋งรุ่น “โฟกัส” พร้อมขายราคาล้านต้นๆ จนได้การตอบรับเป็นอย่างดี
ในส่วนของเฟียสต้า รุ่นวางเครื่องยนต์ดีเซลที่ทำตลาดในยุโรป ปัจจุบันถูกพัฒนาให้ใช้ระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา ดังนั้นถ้านำสเปกนี้มาทำตลาดในประเทศไทย อาจไม่ได้การตอบรับที่ดี สาเหตุเพราะผู้บริโภคไทยส่วนใหญ่นิยมเกียร์อัตโนมัติ
“แม้จะมีการผลิต เฟียสต้า เครื่องยนต์ดีเซล ที่โรงงานเอเอที เพื่อส่งออกไปยัง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้ ซึ่งจะเริ่มส่งออกตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป แต่ถ้าถามโอกาสที่จะนำ เฟียสต้า ดีเซล เกียร์ธรรมดา มาทำตลาดในประเทศไทย ต้องยอมรับว่าขายลำบาก” สาโรช กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม หากจะให้ ฟอร์ดบริษัทแม่ พัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล กับเกียร์อัตโนมัติ เพื่อรองรับตลาดไทยคงเป็นเรื่องยาก เพราะปริมาณการขายน้อย และต้องศึกษาปัจจัยหลายอย่าง ขณะเดียวกันถ้าจะใช้เกียร์เพาเวอร์ชิฟท์ (ดูอัลคลัตซ์) ก็จะทำให้ราคารถสูงขึ้นอีกมาก
นอกจากนี้ด้วยนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนพลังงานทางเลือก โดยเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน รองรับแก๊สโซฮอล์ อี20จะได้ส่วนลดภาษีสรรพสามิต อีก5% กล่าวคือ เฟียสต้า เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร อี20 รุ่นที่ขายในปัจจุบันเสียภาษีสรรพสามิตหน้าโรงงาน25% แต่ถ้าวางเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร จะไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จึงต้องเสียภาษีเต็มๆ 30%
“ด้วยโครงสร้างการเก็บภาษีที่ซับซ้อน เมื่อบวกกับต้นทุนผลิตเครื่องยนต์ดีเซลที่สูงกว่าเบนซินอยู่แล้ว อาจทำให้ราคาขาย เฟียสต้า ดีเซล พุ่งไปถึง 8 แสนบาท ที่สำคัญยังเป็นเกียร์ธรรมดา จึงเชื่อว่าไม่น่าดึงดูดใจลูกค้าชาวไทยนัก” สาโรช กล่าวปิดท้าย
สำหรับ “เฟียสต้า ดีเซล” ที่ผลิต ณ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (เอเอที) จังหวัดระยอง โมเดลส่งออกไป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้ เป็นตัวถังแฮตซ์แบ็ก 5 ประตู (รุ่น 3 ประตู นำเข้ามาจากยุโรป) วางเครื่องยนต์ดีเซล Duratorq ขนาด1.6 ลิตรTDCi SOHC 4 สูบ 90 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 212 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เต็มตากับ…Honda Jazz Hybrid

Honda Jazz Hybrid
คงเหมือนกับหลายเคสๆ ก่อนหน้านี้ว่า ‘ฝรั่งได้เห็นคนแรก แต่ญี่ปุ่นได้ซื้อมาขับก่อน’

เพราะในตอนนี้ฮอนด้าประกาศแล้วว่าจะเปิดตัวแจ๊ซ/ฟิต ไฮบริดเป็นครั้งแรกของโลกที่ปารีส มอเตอร์โชว์ 2010 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-17 ตุลาคมนี้ แต่คนที่จะได้ซื้อมาขับเล่นก่อนใคร คือ ญี่ปุ่น เพราะมีภาพของแคตลาล็อกฮอนด้า ฟิต (หรือแจ๊ซ) ไฮบริด เวอร์ชันฉบับจริงรั่วไหลออกมาให้เห็นในอินเตอร์เนตแล้ว พร้อมกับมีข่าวว่า จะเริ่มทำตลาดด้วยเวอร์ชัน JDM สำหรับขายในบ้านตัวเองเดือนตุลาคมนี้ (และน่าจะมาพร้อมกับรุ่นปรับโฉมของฟิต เครื่องยนต์ปกติด้วย)
Honda Jazz Hybrid แจ๊ซ ไฮบริด ที่เตรียมเปิดตัวในปารีส มอเตอร์โชว์
Honda Jazz Hybrid รายละเอียดของตัวรถยังไม่เปิดเผย แต่เมื่อดูจากรายละเอียดของแคตาล็อกเวอร์ชัน JDM ที่หลุดออกมานั้น เวอร์ชันไฮบริดจะมากับเครื่องยนต์ IMA ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ 1,300 ซีซี กับมอเตอร์ไฟฟ้า และน่าจะเป็นชุดไฮบริดเดียวกับที่ใช้อยู่ในรุ่นอินไซท์ ส่วนความประหยัดน้ำมัน ตามการทดสอบของฮอนด้าจะอยู่ที่ 30 กิโลเมตร/ลิตร

สำหรับราคายังไม่เปิดเผยออกมา แต่ตามข่าวที่ระบุก่อนหน้านี้ แจ๊ซ/ฟิต ไฮบริดจะออกสตาร์ทในญี่ปุ่นที่ 1.6 ล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทยในช่วง 100 เยนเท่ากับ 37 บาท ราคาก็จะอยู่ที่เฉียดๆ 6 แสนบาท
Honda Jazz Hybrid
Honda Jazz Hybrid ภาพแคตาล็อกของฟิต ไฮบริด เวอร์ชัน JDM ที่เตรียมขายในญี่ปุ่นเดือนตุลาคมนี้
Honda Jazz Hybrid
Honda Jazz Hybrid คาดว่าฟิต ไฮบริดจะเปิดตัวพร้อมกับรุ่นปรับโฉมของฟิต เครื่องยนต์ปกติ เพราะอายุในการทำตลาดครบแล้ว
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Vyrus 987 C3 4V มอเตอร์ไซค์ผลิตเชิงพาณิชย์ที่(จะ)เร็วและแรงที่สุดในโลก เตรียมเผยโฉมในงาน EICMA

Vyrus 987 C3 4V มอเตอร์ไซค์ผลิตเชิงพาณิชย์ที่(จะ)เร็วและแรงที่สุดในโลก เตรียมเผยโฉมในงาน EICMA Vyrus เป็นบริษัทผลิตมอเตอร์ไซค์สัญชาติอิตาลีที่มีเจ้าของซึ่งเป็นอดีตพนักงานของ บริษัท Bimota ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 คือ Ascanio Rodorigo ล่าสุด Rodorigo มีแผนนำมอเตอร์ไซค์ที่ว่ากันว่า(จะ)แรงและเร็วที่สุดในโลก Vyrus 987 C3 4V รุ่นปี 2010 ไปอวดโฉมในงาน EICMA ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี

Vyrus 987 C3 4V ใช้เครื่องยนต์ L-Twin ขนาด 1198 ซีซี ของ Ducati 1198 โดยมี 3 เวอร์ชั่นให้เลือก คือ เวอร์ชั่น 170 แรงม้า ซึ่งมีน้ำหนักรถที่ 163 กิโลกรัม ที่จะถูกปล่อยสู่ตลาดภายในปลายปีนี้ เวอร์ชั่นที่แรงขึ้นมาอีกนิดคือ Vyrus 987 C3 4V R ที่มาพร้อมกับแรงม้า 184 ตัว และน้ำหนัก 158 กิโลกรัม คือแรงขึ้นแต่เบาลง และเวอร์ชั่นสุดท้ายตัวท็อปที่มีการติดตั้ง supercharger เพื่อเพิ่มกำลังรถไปเป็น 211 แรงม้า พร้อมน้ำหนักตัวที่เบาขึ้นอีกที่ 154 กิโลกรัม ทำให้รุ่นนี้กำลังจะกลายเป็นรถที่เร็วและแรงที่สุดในโลก โดย 987 C3 4V ถือว่าเบากว่าและแรงกว่ารถคู่แข่งจากค่ายดังอย่าง Kawasaki ZZR1400, Yamaha VMax, Ducati Desmosedici RR, Ducati 1198S รวมถึง MV Agusta F4 1078RR ด้วยเช่นกัน

Rodorigo เผยว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือน้ำหนักรถที่เบามากกว่าที่จะเป็นเรื่องของกำลังรถที่ ทำให้รถคันนี้เร็วที่สุด ซึ่ง Vyrus 987 ใหม่รุ่นนี้จะถูกติดตั้งด้วยเทคโนโลยีสุดไฮเทคต่างๆรวมถึงระบบควบคุมแรงฉุด ที่ใช้สเปคเดียวกับรถแข่งเพื่อช่วยให้ผู้ขี่สามารถทำการควบคุมรถในระดับความ แรงดังกล่าวได้ นอกจากนั้นยังมีการใช้โครงสร้างตัวถังแบบใหม่ล่าสุดที่มีความเสถียรมากๆ พร้อมระบบควบคุมการหักเลี้ยวแฮนเดิ้ลบาร์จากศูนย์กลางและ swingarm หน้าแทนที่จะใช้ตะเกียบหน้าแบบมอเตอร์ไซค์ทั่วไป
ในเรื่องของราคาของมอเตอร์ไซค์ผลิตเชิงพาณิชย์ที่ว่ากันว่าแรงและเร็วที่ สุดในโลกก็ไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน เพราะเริ่มต้นที่ 44,000 ยูโร สำหรับเวอร์ชั่นเล็กที่สุด โดยเวอร์ชั่น R ราคาอยู่ที่ 50,000 ยูโร ส่วนเวอร์ชั่นซุปเปอร์ชาร์จท็อปสุดอยู่ที่ 71,000 ยูโร

ส่วนมอเตอร์ไซค์คันนี้จะเร็วและแรงที่สุดในโลกอย่างไร คงจะมีการเปิดเผยรายละเอียดในเร็ววันนี้ครับ ทราบแต่ว่าตอนนี้ Vyrus เร็วและแรงที่สุดในโลก

ที่มา: Vyrus , autospinn

KTM กระตุ้นต่อมอยากขาโจ๋ ปล่อยคลิปวิดีโอทีเซอร์ Streetbike 125 cc โชว์ความคืบหน้า

KTM กระตุ้นต่อมอยากขาโจ๋ ปล่อยคลิปวิดีโอทีเซอร์ Streetbike 125 cc โชว์ความคืบหน้า KTM กำลังวุ่นอยู่กับการออกแบบและพัฒนาขั้นสุดท้ายสำหรับ Streetbike ขนาดเครื่องยนต์ 125 cc รุ่นใหม่ 2 รุ่นที่เคยเปิดตัวในฐานะมอเตอร์ไซค์แนวคิดในงาน EICMA ที่กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อปีที่ผ่านมา โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายก็คือ วัยรุ่นที่รักความเร็วและชอบขี่มอเตอร์ไซค์ในสไตล์โลดโผนโจนทะยาน ชนิดที่เรียกว่าตอบสนองฮอร์โมนวัยรุ่นได้อย่างเต็มที่ ล่าสุด KTM ได้ปล่อยวิดีโอทีเซอร์ออกมากระตุ้นต่อมอยากด้วยภาพคมชัดระดับ HD ที่ทำให้ขาโจ๋น้ำลายหกกับมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 125 cc ทั้งสองรุ่นนี้ครับ

KTM 125 - R&D Status
ที่มา autospinn

Ryno มอเตอร์ไซด์ล้อเดียวแรงกว่าเซกเวย์

Ryno มอเตอร์ไซด์ล้อเดียวแรงกว่าเซกเวย์ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ Segway ยนตกรรมสองล้อที่สามารถทรงตัวเองได้ แต่สำหรับมอเตอร์ไซด์ทีชื่อว่า Ryno ขอแค่ล้อเดียวแต่ก็สามารถทรงตัว และซิ่งเร็วทิ้งห่าง Segway ได้แบบไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว...จะว่าไปมันดูคล้ายมอเตอร์ไซด์ครึ่งคัน แต่มันยิ่งดูน่าทึ่งเข้าไปใหญ่ เมื่อได้เห็นคนขับเจ้า Ryno เพราะมันไม่น่าเชื่อว่า เจ้า Ryno จะขี่สะดวกง่ายดายกว่ารถมอเตอร์ไซด์ทั่วไปเสียอีก แม้มันจะดูไม่ค่อยปลอดภัย หรือน่าจะล้มง่าย แต่มันดูคล่องตัวไม่ใช่เล่นเลย หวังว่า หลังจากได้ชมคลิปข้างล่างนี้แล้ว คงจะหมดคำถามกันนะครับว่า เจ้า Ryno มันซิ่งได้จริงๆ หรือไม่? หลังจากทีได้เห็นมันมาก่อนหน้านี้นานพอสมควรแล้ว
ที่มา : Arip

วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

New Honda Civic รุ่นปี 2012 เจนเนอเรชั่นใหม่? ว่ากันว่าคือภาพจำลองที่ใกล้ความเป็นจริงที่สุด

New Honda Civic รุ่นปี 2012 เจนเนอเรชั่นใหม่? ว่ากันว่าคือภาพจำลองที่ใกล้ความเป็นจริงที่สุด เว็บไซท์ชื่อ woodyscarsite.com ได้ปล่อยภาพที่ไม่มีการยืนยันแหล่งที่มา หรือยืนยันว่าเกิดจากการที่เจ้าของภาพได้เห็นแล้วมาสร้างภาพเรนเดอร์ขึ้นมา หรือไม่ โดยข้อสงสัยของเว็บไซท์ดังกล่าวก็คือ รูปที่เห็นอาจจะเป็น Acura CSX ที่จะมีจำหน่ายในประเทศแคนาดาเท่านั้น หรืออาจจะเป็น Honda Civic เจนเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งรถในชุดพรางสีดำที่นำมาภาพประกอบคือ Honda Civic เวอร์ชั่น 5 ประตู เวอร์ชั่นยุโรปรุ่นใหม่ ที่กำลังจะถูกปล่อยออกมาแต่ก็ไม่มีการยืนยันอีกเช่นกันว่าจะเป็นเจนเนอเร ชั่นต่อไปหรือไม่ เพราะตัวถังดูต่างไปมากจากโฉมปัจจุบัน แต่รูปทรงของบานหน้าต่างกลับดูคล้ายแบบเดิม
แต่ถ้านำภาพ spy shot ที่มีการเก็บภาพได้ใกล้สำนักงานใหญ่ของ Honda ในประเทศเยอรมันนีกับภาพล่าสุดที่มีตัวถังสีฟ้านี้มาเปรียบเทียบกันก็มีส่วน คล้ายกันอยู่ไม่ใช่น้อย แม้ว่าทั้งสองคันอาจจะคนละเวอร์ชั่นก็ตาม คือ แฮทช์แบ็คและซีดาน แต่จากข่าวลือที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง รูปล่าสุดนี้ถือว่ามีการเปิดเผยโฉม Civic เจนเนอเรชั่นใหม่ที่ชัดเจนที่สุดแม้ว่าภาพจะไม่ชัดเจนเอาเสียเลย และไม่มีการยืนยันว่าเป็น All-New Honda Civic หรือไม่
ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามคาด Civic รุ่นนี้จะเป็นโฉมรุ่นปี 2012 หรือน่าจะมีการเปิดตัวภายในสิ้นปีหน้า แต่สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ Chevrolet กำลังจะเปิดตัว Cruze ในต้นปีหน้าที่บ้านเรา(ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด) ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ General Motors หมายมั่นปั้นมือให้ดังเป็นพลุแตกลอยลมบนในตลาดประเทศไทยอีกรุ่นหนึ่งไม่แพ้ Captiva ถึงตอนนั้นคงมีอะไรๆที่น่าติดตามไม่น้อยสำหรับตลาดรถคอมแพคท์ในบ้านเรา และโปรดจับตาความเคลื่อนไหวของรถ segment นี้ให้ดีเพราะอาจจะมีการทยอยปล่อยของเกิดขึ้นที่ AutoSpinn แบบค่อยเป็นค่อยไป ที่นี่ที่เดียวเท่านั้นครับ!!!
ที่มา: woodyscarsite.com

Smart Fortwo gb-10 รุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 10 ปีในอังกฤษ ผลิตป้อนตลาดเพียง 100 คัน

Smart Fortwo gb-10 รุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 10 ปีในอังกฤษ ผลิตป้อนตลาดเพียง 100 คัน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการทำตลาดครบรอบ 10 ปีในสหราชอาณาจักร Smart เตรียมออกรุ่นพิเศษของ Fortwo ที่เรียกว่า gb-10 ซึ่งจะมีการผลิตออกมาจำหน่ายเพียง 100 คันเท่านั้น แบ่งเป็นทรงคูเป้เครื่องยนต์เบนซิน 50 คัน เปิดประทุนเครื่องยนต์เบนซิน 10 คัน คูเป้เครื่องยนต์ดีเซล 30 คัน และเปิดประทุนเครื่องยนต์ดีเซลอีก 10 คัน โดยรถทุกคันจะทำสีเงินเมทัลลิคโดยใช้สีแดงกับห้องโดยสาร เสริมรูปลักษณ์ให้เด่นขึ้นด้วยล้ออัลลอยขอบ 15 นิ้วชุดใหม่ ไฟวิ่ง LED Daytime และไฟเบรคที่ 3 จาก Brabus
ภายในของ Fortwo gb-10 แตกต่างด้วยการใช้เบาะนั่งสีแดงหุ้มหนังของ Rosso ซึ่งหนังสีแดงนี้ได้ขยายพื้นที่ไปยังแผงข้างประตูภายใน ส่วนล่างคอนโซลหน้า และคันเบรคมือ ในขณะที่คอนโซลหน้าส่วนบนใช้วัสดุอัลคันทาร่าสีดำพร้อมตกแต่งด้วยฝาครอบ อุปกรณ์สีเงิน นอกจากนั้น Smart ยังใช้โลโก้คำว่า gb-10 บริเวณที่รองศีรษะเบาะนั่งเพื่อย้ำในความแตกต่างอีกด้วย
Smart Fortwo gb-10 มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ 10,695 ปอนด์
ที่มา: Mercedes , autospinn

Kia POP ซิตี้คาร์แนวคิดพลังงานไฟฟ้า มาหานะเธอ

Kia POP ซิตี้คาร์แนวคิดพลังงานไฟฟ้า มาหานะเธอ Kia เตรียมใช้โอกาสที่จะเข้าร่วมงาน Paris Motor Show ที่จะเริ่มขึ้นในปลายเดือนกันยายนนี้ ในการเปิดตัวซิตี้คาร์แนวคิด Kia POP ระบบไฟฟ้าทั้งคันที่บริษัทฯอ้างว่าสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 3 คน ด้วยความยาวของตัวรถเพียงแค่ประมาณ 3 เมตรเท่านั้นเอง!

และด้วยความยาวแค่นี้เลยเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่า POP จะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 3 คน แม้ว่าจะมีความยาวมากกว่า Smart Fortwo แต่การ Toyota iQ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อยสามารถรองรับได้ถึง 4 คน ก็อาจจะให้หายข้อสงสัยไปได้บางว่าพื้นที่ภายในคับแคบเกินไป

อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่ารถรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีพื้นที่จับเก็บชุดแบตเตอรี่ที่จะทำให้ไปเบียดพื้นที่ โดยสารโดยปริยาย การรองรับผู้โดยสาร 3 คน ก็อาจจะเป็นในลักษณะที่ไม่สะดวกสบายมากนัก แต่ก็เหมาะกับการโดยสารในเมืองหรือระยะเดินทางสั้นๆที่ไม่จำเป็นต้องใช้เวลา นานบนรถให้ปวดเมื่อยเพราะจำเป็นต้องขดตัวโดยเฉพาะผู้โดยสารตัวใหญ่ๆ

Kia จะเปิดตัว POP ในวันที่ 30 กันยายนนี้ที่งานมอเตอร์โชว์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ที่มา igadgety

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Nissan X-Trail ปรับรูปลักษณ์-เพิ่มเครื่อง

Nissan X-Trail ปรับรูปลักษณ์-เพิ่มเครื่อง ทำตลาดมาได้ร่วม 2 ปี ตอนนี้นิสสันขยับความสดใหม่ให้กับเอสยูวีไซส์คอมแพ็กต์ของตัวเองอย่างรุ่น X-Trail แล้ว โดยในญี่ปุ่น เผยโฉมรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงทางด้านรูปลักษณ์รอบคัน และเพิ่มเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลแบบ Clean Diesel ในรหัส GT20 สำหรับขายในแดนปลาดิบ เอาใจนักขับที่ชอบแรงบิดเป็นพิเศษเรื่องความเปลี่ยนแปลงทางด้านรูปลักษณ์ภาย นอกเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นนี้ซึ่งเป็นเจนเนอเรชันที่ 2 ของตัวรถและเปิดขายมาตั้งแต่ปี 2008 นั้น
จะพบกับความสดใหม่ทางด้านหน้าอย่างชัดเจน เริ่มจากการเปลี่ยนไฟหน้าใหม่ ซึ่งย้ายตุ่มดวงกลมบนขอบไฟ จากเดิมที่อยู่ทางด้านข้างติดกับกระจังหน้า มาอยู่ทางด้านล่างติดกับขอบบนของกันชนหน้าแทน พร้อมกับออกแบบรายละเอียดภายในโคมไฟใหม่หมด เช่นเดียวกับการติดตั้งโคมโปรเจ็กต์เตอร์แบบ Xenon มาจากโรงงาน...กันชนหน้าออกแบบใหม่ทั้งหมด ล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว ไฟท้ายใหม่แบบ LED เครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นรหัส M9R แบบ 4 สูบ ทวินแคม 2,000 ซีซี 173 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 36.7 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/นาที เทียบเท่ากับที่ได้จากเครื่องยนต์เบนซินวี6 3,500 ซีซี และสามารถเลือกได้ว่าจะขับแบบเกียร์แมนนวล หรืออัตโนมัติที่มีจำนวนจังหวะเดินหน้าเท่ากันที่ 6 จังหวะ และมีการติดตั้งระบบ Idle Stop ซึ่งจะดับเครื่องยนต์เมื่อจอดติดอยู่กับที่ เพื่อลดความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และลดการปล่อยมลพิษในไอเสีย อีก 2 ทางเลือกยังเหมือนเดิมเป็นเบนซิน 4 สูบรหัส MR20DE 2,000 ซีซี 137 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 20.4 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที และ QR25DE ที่มีความจุขยับเป็น 2,500 ซีซี 170 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 23.5 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ทั้ง 2 รุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT แต่ในรุ่น 2,500 ซีซี มีรุ่น CVT ล็อกโหมดแบบ 6MT เอาไว้ให้เลือกใช้งานด้วย
ที่มา : Manager

Mercedes-Benz CL63AMG : หัวใจใหม่เพื่อเวอร์ชันแรง

Mercedes-Benz CL63AMG : หัวใจใหม่เพื่อเวอร์ชันแรง ทิ้งระยะจากการเปิดตัวการปรับโฉมของรุ่นปกติของสปอร์ตร่างยักษ์สายพันธุ์ CL-Class ได้ไม่นาน ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์จัดการนำเวอร์ชันสุดแรงของไลน์ผลิตอย่าง AMG ในรหัส CL63AMG มาเปิดโฉมแล้ว...ประเด็นหลักของตัวรถรุ่นนี้ไม่ได้อยู่ที่หน้าตาที่ได้รับ การไมเนอร์เชนจ์ แต่อยู่ที่ความเปลี่ยนแปลงใต้ฝากระโปรงหน้า เพราะมันคือเครื่องยนต์วี8 ทวินแคม 32 วาล์ว 5,500 ซีซี เทอร์โบคู่ พร้อมโบล์ว ออฟ วาล์ว และอินเตอร์คูลเลอร์ รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทาง AMG พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบรับกับความต้องการของยุคสมัยนี้ กำลังสูงสุด 536 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 81.4 กก.-ม. และเมื่อติดตั้งชุด AMG Performance Package เข้าไป
ซึ่งจะมีการปรับบูสต์เทอร์โบให้มีการทำงานแบบสูงสุด จำนวนม้าในคอกก็จะขยับขึ้นมาเป็น 563 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 91.6 กก.-ม. ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ สมรรถนะของตัวรถยอดเยี่ยมทั้งตีนต้นและตีนปลาย ในเวอร์ชั่นเดิมๆ จากโรงงาน ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.4 วินาที และจะลดลงมาอยู่ที่ 4.3 วินาทีเมื่อติดตั้งชุด AMG Performance Package ส่วนความเร็วปลายโดนล็อกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เอาไว้ที่ 155 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นชุด AMG ก็จะขยับตัวเลขขึ้นเป็น 186 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ยุโรปเป็นแห่งแรกที่จะได้สัมผัสปลายปีนี้ ส่วนราคายังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าจะแพงกว่ารุ่นเดิมไม่มากนัก ซึ่งรุ่นเดิมที่ขายในเยอรมนี ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งเอาไว้ที่ 160,769 ยูโร หรือ 7.32 ล้านบาท
ที่มา : Manager

Mercedes-Benz CL63AMG : หัวใจใหม่เพื่อเวอร์ชันแรง

Mercedes-Benz CL63AMG : หัวใจใหม่เพื่อเวอร์ชันแรง ทิ้งระยะจากการเปิดตัวการปรับโฉมของรุ่นปกติของสปอร์ตร่างยักษ์สายพันธุ์ CL-Class ได้ไม่นาน ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์จัดการนำเวอร์ชันสุดแรงของไลน์ผลิตอย่าง AMG ในรหัส CL63AMG มาเปิดโฉมแล้ว...ประเด็นหลักของตัวรถรุ่นนี้ไม่ได้อยู่ที่หน้าตาที่ได้รับ การไมเนอร์เชนจ์ แต่อยู่ที่ความเปลี่ยนแปลงใต้ฝากระโปรงหน้า เพราะมันคือเครื่องยนต์วี8 ทวินแคม 32 วาล์ว 5,500 ซีซี เทอร์โบคู่ พร้อมโบล์ว ออฟ วาล์ว และอินเตอร์คูลเลอร์ รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทาง AMG พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบรับกับความต้องการของยุคสมัยนี้ กำลังสูงสุด 536 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 81.4 กก.-ม. และเมื่อติดตั้งชุด AMG Performance Package เข้าไป
ซึ่งจะมีการปรับบูสต์เทอร์โบให้มีการทำงานแบบสูงสุด จำนวนม้าในคอกก็จะขยับขึ้นมาเป็น 563 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 91.6 กก.-ม. ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ สมรรถนะของตัวรถยอดเยี่ยมทั้งตีนต้นและตีนปลาย ในเวอร์ชั่นเดิมๆ จากโรงงาน ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.4 วินาที และจะลดลงมาอยู่ที่ 4.3 วินาทีเมื่อติดตั้งชุด AMG Performance Package ส่วนความเร็วปลายโดนล็อกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เอาไว้ที่ 155 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นชุด AMG ก็จะขยับตัวเลขขึ้นเป็น 186 ไมล์/ชั่วโมง หรือ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ยุโรปเป็นแห่งแรกที่จะได้สัมผัสปลายปีนี้ ส่วนราคายังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าจะแพงกว่ารุ่นเดิมไม่มากนัก ซึ่งรุ่นเดิมที่ขายในเยอรมนี ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งเอาไว้ที่ 160,769 ยูโร หรือ 7.32 ล้านบาท
ที่มา : Manager

Porsche Panamera S Hybrid พบกันปีหน้า 2011


Porsche Panamera S Hybrid พบกันปีหน้า 2011 บริษัท Porsche ได้ประกาศว่าจะมีการสร้างรถซีดานหรูเวอร์ชั่นสะอาด Panamera S Hybrid ออกมาในปี 2011 อย่างแน่นอน

รถ Panamera จะยิบยืมระบบ Hybrid ต่างๆมาจากรถ Cayenne S Hybrid ซึ่งหมายความว่ามันจะถูกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จ V6 3.0 ลิตร 333 แรงม้า ที่จะมาคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 46 แรงม้า โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานในช่วงความเร็วต่ำ และจะเปลี่ยนเป็นใช้แรงจากเครื่องยนต์ในย่านความเร็วสูง และคาดว่าทั้งด้านความและด้านการปล่อย CO2 น่าจะอยู่ใกล้เคียงกับรถ Cayenne S Hybrid

เมื่อรถ Panamera S Hybrid ออกมาตีตลาดในปี 2011 รถคันนี้จะเป็นรถ Hybrid คันที่สองของค่าย Porsche
ที่มา : 5uper5onic

วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ใหม่ Honda Fit/Jazz Hybrid พร้อมลุยตลาดที่ญี่ปุ่นตุลาคมนี้ ในราคาเริ่มต้นต่ำสุดๆ 1.6 ล้านเยน


ใหม่ Honda Fit/Jazz Hybrid พร้อมลุยตลาดที่ญี่ปุ่นตุลาคมนี้ ในราคาเริ่มต้นต่ำสุดๆ 1.6 ล้านเยน หนังสือพิมพ์รายวัน Mainichi Shimbun ของประเทศญี่ปุนรายงานว่า Honda จะเริ่มจำหน่าย Honda Fit/Jazz Hybrid ในประเทศญี่ปุ่นในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ในราคาเริ่มต้น 1.6 ล้านเยน ทำให้ Fit Hybrid กลายเป็นรถไฮบริดราคาถูกที่สุดในประเทศญี่ปุ่นไปเลย Fit หรือ Jazz Hybrid ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นเดียวกับที่ใช้กับรุ่น Insight จะมีราคาแพงกว่า Fit รุ่นธรรมดาอยู่ 4 แสนเยน แต่จะถูกกว่ารถรุ่นไฮบริดที่มีขนาดใหญ่กว่าประมาณ 3 แสนเยน อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันใดๆว่า Honda จะส่ง Fit/Jazz Hybrid ไปทำตลาดในประเทศอื่นๆเมื่อไร แต่คิดว่าอีกไม่นานเราคงได้เห็น Jazz Hybrid ในบ้านเรากันครับ
ที่มา: Mainichi Shimbun

รถเล็กขอดุ! Smart ForTwo ถูกจับแต่งเป็นรถถังเล็กขนาดจิ๋ว ติดล้อตีนตะขาบพร้อมลายพรางทหาร


รถเล็กขอดุ! Smart ForTwo ถูกจับแต่งเป็นรถถังเล็กขนาดจิ๋ว ติดล้อตีนตะขาบพร้อมลายพรางทหาร ใครจะไปคาดคิดว่า Smart ForTwo รถเล็กน่ารักจุ๋มจิ๋มจะแต่งให้ดุอย่างที่เห็นในภาพ ที่ FowTwo ได้ถูกนำมาแต่งให้กลายเป็นรถถังขนาดจิ๋วโดยมีการเพิ่มล้อตีนตะขาบเข้าไปนอก จากการแต่งตัวถังด้วยลายพรางทหาร รายละเอียดจากเว็บต้นฉบับไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรและมีเพียงภาพเดียวสำหรับ ForTwo รถถังคันนี้ เราเลยไม่ทราบเหมือนกันว่าเวลาเปิดปิดประตูจะทุลักทุเลขนาดไหน หรือต้องเข้าออกจากตัวรถทางประตูบนหลังคาแบบรถถังจริงหรือไม่?แต่ดูดีๆก็รู้สึกสวยดุแบบขำๆเหมือนกันนะเนี้ย อิอิ
ที่มา: motofilm

Smart Fortwo C25 Edition รถสนับสนุนกิจกรรมรถแข่ง Super GT C25 ในชุดแต่งโฉมของ Carlsson

Smart Fortwo C25 Edition รถสนับสนุนกิจกรรมรถแข่ง Super GT C25 ในชุดแต่งโฉมของ Carlsson Carlsson Autotechnik สำนักแต่งชื่อดังได้ประกาศขายชุดแต่งโฉมสำหรับ Smart Fortwo C25 Edition ที่เคยถูกใช้เป็นรถสนับสนุนกิจกรรมในสนามแข่ง Super GT C25 ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งแต่งแบบพิเศษได้ตามความต้องการ ชุดแต่ง Fortwo จาก Carlsson ชุดล่าสุดนี้เริ่มด้วยการใช้ชิ้นส่วนของแผงกระจังหน้าสเตนเลสสีดำแบบ 2 ชิ้นในราคาเริ่มต้น 153 ยูโร นอกจากนั้นยังใช้ไฟวิ่ง LED Daytime พร้อมแหล่งจ่ายไฟและระบบควบคุมแยกอิสระในราคาชุดละ 415 ยูโร ส่วนที่นั่งสไตล์สปอร์ตชุดละ 359 ยูโร
แต่ชุดแต่งที่สำคัญเห็นจะเป็นชุดหุ้มหนังภายในที่ราคา 4,163 ยูโร ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำจากหนังของ Softwalk Nappa โดยบางส่วนเป็นวัสดุอัลคันทาร่า รูปลักษณ์ภายในมาพร้อมลุคใหม่ในเกือบทุกจุดตั้งแต่แผงอุปกรณ์ คอนโซลกลาง พวงมาลัย ช่องอากาศ ประตูด้านใน และเบาะนั่งซึ่งมีการใช้ลายตัดคล้ายเพชร(ในมุมมองฝรั่ง) ในขณะที่ที่รองศีรษะมีโลโก้ของ Carlsson ติดอยู่ด้วย
ในกรณีที่เบาะนั่งของ Fortwo ของคุณหุ้มหนังอยู่แล้ว แต่ต้องการในสไตล์ของ Carlsson คุณสามารถทำได้โดยเสียค่าใช้จ่ายที่ 2,559 ยูโร นอกจากนั้นยังมีหัวเกียร์สวยๆในราคาชุดละ 89 ยูโร นอกจากเรื่องการแต่งโฉมแล้ว Carlsson ยังมีชุดเครื่องเสียงขนาด 400 วัตต์ให้เลือกในราคาชุดละ 1,295 ยูโร ซึ่งจะมาพร้อมแอมปลิฟายเออร์ 2 ช่องสัญญาณและลำโพงขนาด 16.5 เซนติเมตร โดยมีโลโก้ Carlsson ติดอยู่ด้วยครับ


ที่มา: Carlsson,www.autospinn.com

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ได้เฮ!ฮอนด้า"แจ๊ซ ไฮบริด"เริ่มต้น 6 แสนบาท

ได้เฮฮอนด้า!"แจ๊ซ ไฮบริด"เริ่มต้น 6 แสนบาท ไม่ใช่ข่าวลืออีกต่อไปแล้ว หลังจากที่สื่อมวลชนในญี่ปุ่นเคยปูพรมข่าวที่ฮอนด้าเตรียมผลิตซับคอมแพ็กต์ไฮบริดด้วยการจับเอา แจ๊ซ/ฟิต มาเป็นพื้นฐานตลอดช่วงปีที่ผ่านมา โดยในตอนนี้มีข่าวยืนยันว่าฮอนด้าจะผลิตจริง และเริ่มขายในญี่ปุ่นปลายปีนี้ด้วยชื่อฟิต ไฮบริด พร้อมกับราคาถูกไม่น่าเชื่อ คิดเป็นเงินไทยแล้วครึ่งล้านบาทเท่านั้น

แจ๊ซ หรือ ฟิต ในญี่ปุ่น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างการนำเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์โตเกียว ชิมบุน และไมนิชิ ชิมบุน ซึ่งนำเสนอตรงกันว่า ราคาของฟิต ไฮบริดที่ขายในญี่ปุ่นจะอยู่ที่ 1.59 ล้านเยน หรือ 18,600 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 600,000 บาท ใกล้เคียงกับรุ่น 1.5X หรือ 1.5RS ตัวแต่งแบบสปอร์ต ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดของสายพันธุ์ที่ขายอยู่ในญี่ปุ่น

สาเหตุที่ราคาของฟิต ไฮบริดถูกเกินคาดเป็นผลมาจากมาตรการอุดหนุนของภาครัฐ ที่สนับสนุนให้คนญี่ปุ่นหันมาใช้รถยนต์ที่มีความประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดหย่อนภาษี หรือ Green Tax รวมถึงได้รับสิทธิพิเศษบางประการ และนั่นทำให้รถยนต์ไฮบริดที่เปิดตัวออกมาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้รับความนิยมจากลูกค้าแดนปลาดิบเป็นจำนวนมาก

จากการเปิดเผยของหนังสือพิมพ์ชิมบุน เดลี่ระบุว่า ต้นทุนในการผลิตของฟิต ไฮบริดจะถูกกว่าฮอนด้า อินไซต์ประมาณ 300,000 เยน หรือ 110,000 บาท แม้ว่ารถยนต์ทั้ง 2 รุ่นจะแชร์พื้นฐานทางวิศวกรรมร่วมกันก็ตาม และจากราคาที่แพงกว่ารุ่นพื้นฐานของฟิตเพียง 400,000 เยน หรือ 148,000 น่าจะทำให้ฟิต ไฮบริดได้รับความนิยมอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ยังไม่มีการเปิดเผยสเปกของระบบไฮบริดที่จะใช้ในฟิต ไฮบริด แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นการปรับปรุงมาจากอินไซท์เพื่อให้มีความเหมาสมกับตัวรถ
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ฮุนไดส่ง “เอลันตร้า” ใหม่ลุยบ้านตัวเอง

ฮุนไดส่ง “เอลันตร้า” ใหม่ลุยบ้านตัวเอง ฮุนไดรุกตลาดรถยนต์คอมแพ็กต์ในบ้านตัวเองแล้ว จัดการส่ง “อะวันเต้” (Avante) หรือ เอลันตรา ลงขายในตลาดเกาหลีใต้แล้ว พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1,600 ซีซี ที่มีความทันสมัย ตั้งราคาเอาไว้ที่ 14.9-16.5 ล้านวอน หรือคิดเป็นเงินไทยแบบยังไม่ร่วมภาษีประมาณ 415,000-544,000 บาท

เอลันตรา หรืออะวันเต้ถือเป็นรถยนต์ของฮุนไดอีกรุ่นที่มีทำตลาดมานานนับจากปี 1990 ซึ่งเมื่อรวมรุ่นใหม่เข้าไปแล้วเป็น 5 เจนเนอเรชัน โดยรุ่นใหม่ถูกเผยโฉมให้เห็นครั้งแรกที่งาน “บูซาน มอเตอร์โชว์ 2010 “ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่เพิ่งจะเริ่มทำตลาดเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม
สำหรับตัวรถมากับตัวถังทรง 4 ประตูพร้อมเส้นสายที่เน้นความโฉบเฉี่ยวซึ่งเป็นสไตล์การออกแบบที่ฮุนไดเรียกว่า Fluidic Sculpture ซึ่งฮุนไดนำมาใช้ครั้งแรกกับรถยนต์รุ่นโซนาตาใหม่ ส่วนขนาดตัวถังเมื่อเปรียบ เทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ มีความยาวเพิ่มขึ้น 25 มิลลิเมตรเป็น 4,530 มิลลิเมตร กว้างเท่าเดิม 1,775 มิลลิเมตร สูง 1,435 มิลลิเมตร ลดลง 55 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 50 มิลลิเมตรเป็น 2,700 มิลลิเมตร ล้อแม็กจากโรงงานมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 15-16 หรือ 17 นิ้วขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย
เครื่องยนต์ที่ทำตลาดมีเพียงแบบเดียวเป็นไดเร็กต์อินเจ็กชัน หรือ GDI 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 1,600 ซีซีในรหัส Gamma มีกำลังขับเคลื่อน 140 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 17.5 กก.-ม. เหนือระดับจากเครื่องยนต์เบนซินรุ่นเดิมแบบ VVT ในทุกรายละเอียดทั้งแรงม้าและแรงบิด (124 แรงม้า/15.9 กก.-ม.)
เมื่อจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะในการส่งกำลังสู่ล้อขับเคลื่อนจะมีความประหยัดน้ำมันในระดับ 17 กิโลเมตร/ลิตร ดีขึ้นจากรุ่นเดิม ซึ่งอยู่ที่ 15.8 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 จังหวะที่เป็นออพชั่นมีความประหยัดน้ำมันเชื้อ 16.5 กิโลเมตร/ลิตร

ส่วนสเปกอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลักของฮุนไดยังไม่มีการเปิดเผยว่านอกจากรุ่น 1,600 ซีซีแล้ว จะมีเครื่องยนต์ 2,000 ซีซีขายด้วยหรือไม่

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

New Honda EN-V รถแนวคิดพลังงานไฟฟ้า รถเล็กแบบน่ารักสุดๆ

New Honda EN-V รถแนวคิดพลังงานไฟฟ้า รถเล็กแบบน่ารักสุดๆ Honda EN-V รถแนวคิดพลังงานไฟฟ้า พกมอเตอร์ไซค์ล้อเดียว U3-X มาด้วยที่โตเกียว ก่อนที่จะไปเปิดตัวในงาน Tokyo Motor Show ที่ประเทศญี่ปุ่นปลายเดือนนี้ Honda ได้ปล่อยภาพรถรุ่นใหม่อีกรุ่นที่เป็นรถแนวคิดพลังงานไฟฟ้าขนาดจิ๋ว Honda EV-N ที่มีการออกแบบในสไตล์เรทโทร และมีรูปร่างเป็นกล่องคล้ายกับ Nissan Cube มากๆ EV-N ได้ถูกออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจมาจากรถขนาดเล็กรุ่น N360 ในยุคทศวรรษที่ 60 Honda EV-N เป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าขนาด 4 ที่นั่ง และเช่นเดียวกับรถรุ่นใหม่อื่นๆที่ยังไม่มีการเปิดเผยในรายละเอียดทางเทคนิค ก่อนงานมอเตอร์โชว์
Honda EV-N ใช้วัสดุผ้าหุ้มเบาะที่นั่งที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย หลังคามีการติดตั้งแผงกำเนิดไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ มีการติดตั้งรถไฟฟ้าล้อเดียว U3-X บริเวณข้างประตูด้านใน ที่ AutoSpinn เคยเขียนถึงไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และที่สำคัญมีการติดตั้งเทคโนโลยี HELLO ซึ่งจะช่วยทำให้รถคันนี้สามารถสื่อสารกับรถคันอื่นๆของ Honda ได้ ส่วนกำลังรถมาจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก 1 ตัวที่ต่อเชื่อมกับชุดแบตเตอรี่ลิเธี่ยมอิออนรุ่นล่าสุด
อย่างไรก็ตาม Honda ยังไม่มีแผนในการผลิตรถไฟฟ้ารุ่นนี้ออกมาจริงๆ ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะมีการเปิดเผยในช่วงงานมอเตอร์โชว์ที่โตเกียวปลายเดือน นี้ครับ

New Honda EN-V รถแนวคิดพลังงานไฟฟ้า รถเล็กแบบน่ารักสุดๆ
New Honda EN-V รถแนวคิดพลังงานไฟฟ้า รถเล็กแบบน่ารักสุดๆ
New Honda EN-V รถแนวคิดพลังงานไฟฟ้า รถเล็กแบบน่ารักสุดๆ
New Honda EN-V รถแนวคิดพลังงานไฟฟ้า รถเล็กแบบน่ารักสุดๆ
New Honda EN-V รถแนวคิดพลังงานไฟฟ้า รถเล็กแบบน่ารักสุดๆ
New Honda EN-V รถแนวคิดพลังงานไฟฟ้า รถเล็กแบบน่ารักสุดๆ
New Honda EN-V รถแนวคิดพลังงานไฟฟ้า รถเล็กแบบน่ารักสุดๆ
ที่มา: Honda,autospinn