วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553

เปิดใจ นพดล ธรรมวัฒนะ วันที่พายุผ่านพ้น ตระกูลนี้ 'ต้องคำสาป' จริงหรือ (ตอนที่ 1)

“แล้วใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไป” เป็นคำถามที่ นพดล ธรรมวัฒนะ ย้อนความให้ฟัง ซึ่งถึงกับทำให้เขาต้องถามกลับนักข่าวสาวทีวีคนหนึ่งว่า “คุณถามอย่างนี้ได้ไง” มันทำให้ทั้งอึ้ง เศร้า อึดอัด โกรธ
เหตุการณ์นี้ผ่านมานานนับสิบปีแล้ว

แล้วข่าวคราวของตระกูล “ธรรมวัฒนะ” ก็เงียบหายไปจากกระแสสื่อเป็นเวลานานพอควร หลังมีการปิดคดีการเสียชีวิตของ นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ พี่ชายใหญ่ของตระกูล ว่าไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่เป็นฆาตกรรม และจำเลยของคดีฆาตกรรมอันลือลั่นนี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน

“นพดล ธรรมวัฒนะ” น้องชายที่คลานตามกันมา...นี่เอง

---@@@---

ที่ห้องพิจารณาคดี 613 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกเวลา 09.45 น. วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน 2553 ศาลออกนั่งบัลลังก์เพื่ออ่านคำพิพากษาคดีความผิดต่อชีวิตที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ ฟ้องคดีดำที่ 248/2547 คดีแดงที่ อ.3819/2550 มี นายนพดล ธรรมวัฒนะ อายุ 56 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่า นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ อดีต ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชากรไทย พี่ชายตัวเอง โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน

คดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อ 23 มกราคม 2547 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า

ระหว่างวันที่ 5-6 กันยายน 2542 เวลากลางคืน ก่อนเที่ยง วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยกับพวกซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด บังอาจร่วมกันใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงนายห้องทอง ธรรมวัฒนะ 1 นัด โดยเจตนาฆ่าให้ตาย กระสุนปืนถูกบริเวณศีรษะนายห้างทอง ทะลุกะโหลกเข้าไปทำลายอวัยวะส่วนสมองเป็นบาดแผลฉกรรจ์ เป็นเหตุให้นายห้างทองถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลดังกล่าว สมดังเจตนาของจำเลยกับพวก รายละเอียดบาดแผลปรากฏตามรายงานการชันสูตรพลิกศพและรายการตรวจศพของเจ้าพนักงานและแพทย์ เหตุเกิดที่บ้าน “ธรรมวัฒนะ” เลขที่ 299/9 หมู่ 7 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ นอกจากนี้ในวันเวลาดังกล่าวเจ้าพนักงานตำรวจได้ยึดอาวุธปืนที่ใช้ยิงในข้อ 1 และสิ่งของต่าง ๆ เป็นของกลาง กระทั่งวันที่ 31 ตุลาคม 2546 เจ้าพนักงานได้ควบคุมจำเลยมาแจ้งข้อหาดำเนินคดี จำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อหา

---@@@---

ประมาณบ่าย 2 โมง วันอังคารที่ 22 กันยายน 2553 ก่อนวันไหว้พระจันทร์หนึ่งวัน เรามีนัดกับเจ้าของบ้าน “ธรรมวัฒนะ” ผ่านเลขาฯส่วนตัวชื่อ “จอย” เป็นบ้านหลังเดียวกับที่อยู่ในคำฟ้องของอัยการ และเป็นบ้านที่ นายห้างทอง ธรรมวัฒนะ เสียชีวิต และทิ้งปริศนาไว้ข้างหลัง

บ้านหลังใหญ่ดูสงบเงียบ มี รปภ.เฝ้าอยู่แค่ 2 คน เมื่อเราบอกความประสงค์ มาพบเจ้าของคฤหาสน์หลังงามนี้ รปภ.ก็ไม่ได้เคร่งครัดอะไรมาก นอกจากถามว่า นัดไว้แล้วใช่ไหม

สระว่ายน้ำ อยู่ด้านหน้า ตามแบบฉบับบ้านเศรษฐีทั่วไป คฤหาสน์ทรงยุโรปทันสมัย 6 ชั้น ดูเก่าไปบ้าง แต่ยังนอนแผ่แนวกว้างอยู่ตรงหน้า บ้าน พักหนึ่ง “จอย” ก็เชิญเข้าไปนั่งรอเจ้านายของในห้องรับแขกขนาดใหญ่ วันนี้เจ้าของบ้านมาในชุดเสื้อยืด ขาสั้น สบาย ๆ

ในมือถือซองบุหรี่มาซองหนึ่ง “เลิกไม่ได้” เขาพูดยิ้ม ๆ

---@@@---

วันนี้บ้าน “ธรรมวัฒนะ” กลับมาอยู่ในโฟกัสของสังคมอีกครั้ง เมื่อ ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลย นายนพดล ธรรมวัฒนะ ในข้อหาฆ่าคนตาย อีกศาล หลังจากศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2550 ได้พิพากษาให้ยกฟ้อง มาแล้ว เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักแน่นหนาเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้

อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฟ้องตามศาลชั้นต้น เหลืออีกศาลเดียว คือศาลฎีกา

กรณีนี้ วันชัย สอนศิริ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง อัยการมีสิทธิจะยื่นฟ้องศาลฎีกาได้อีกภายใน 30 วัน หากที่ประชุมอัยการเห็นว่า มีข้อโต้แย้งหรือเห็นต่าง แต่ถ้าเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลชัดเจน และเห็นว่า ฟ้องไปก็ไม่มีผลแตกต่างไปจากคำวินิจฉัยของทั้งสองศาล อัยการก็อาจตัด สินใจไม่ยื่นฟ้องอีก

กระนั้น นพดล ธรรมวัฒนะ ก็กลับ มาเป็นข่าวอีกครั้ง พร้อมกับข่าว ดีคือ น้องสาว 2 คน ได้มาขอขมาและกลับมายืนข้างเขา หลังเป็นอริกันมาแสนนาน

---@@@---

อย่างที่รู้ สมบัติมหาศาลของตระกูล “ธรรมวัฒนะ” เกิดจาก แม่สุวพีร์ แซ่ลี้ ที่ได้ก่อร่างสร้างตัวจากแม่ค้าขายผัก จบแค่ชั้น ป.4 จนเป็นเจ้าของตลาด “ยิ่งเจริญ” และมีที่ดินมากมาย ทั้งในและต่างประเทศ มีทรัพย์สินเงินสด รวมกันเป็นหมื่น ๆ ล้าน มรดกกองมหึมานี่เอง ที่ถูกสื่อขนานนามต่อมาว่า

“มรดกเลือด”

เมื่อผู้คนในตระกูลธรรมวัฒนะต้องเสียชีวิตร่วมสิบคน ทิ้งปมปริศนา พร้อมกับคำถาม “ใครจะเป็นเหยื่อรายต่อไป” ที่นักข่าวยกขึ้นถาม...ต่อเนื่องกันมา

ลูก 10 คน จากการแต่งงาน 2 ครั้งของสุวพีร์ มี เทิดชัย หรือกำนันแดง พี่ต่างพ่อ ส่วนพ่อ อาคม ฉัตรชัยยันต์ ก็มี ห้างทอง กุสุมา นพดล มัลลิกา คะนึงนิตย์ ณฤมล นัยนา ปริญญา และฐานิยา (หรือนงนุช ) มีการแบ่งข้างโดยมี “นพดล” และ “ปริญญา” เป็นหัวหอกของแต่ละฝ่าย ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ

จุดที่ทำให้ถูกมองว่าเป็นมรดกเลือด เพราะพ่อคือ อาคม ได้ถูกลอบยิงเสียชีวิตในปี 2509 แล้วก็ยังมีคนอื่น ๆ ที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน เช่น กุสุมา (มือปืนซัดทอดว่าผู้จ้างวานฆ่าคือ บวร ธรรมวัฒนะ ผู้เป็นอา กับหลานสาวอีก 2 คน หวังฮุบมรดก แต่ภายหลังศาลฎีกายกฟ้อง) นัยนา สภาพศพถูกล็อกด้วยกุญแจมือทั้งสองข้าง ตามด้วย ผู้ใหญ่แดง ที่ถูกอุ้มหายตัวลึกลับ จนคาดว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง ที่เสียชีวิตระหว่างนั้นอีก มาก
แม้แต่ สุวพีร์เอง ก็เคยโดนลอบฆ่า จนต้องหนีภัยพิบัติในชีวิตไปที่สหรัฐอยู่พักหนึ่ง และการตายรายสุดท้าย ห้างทอง ธรรมวัฒนะ ที่ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง......วันนี้ เหมือนฟ้าหลังฝน ที่พายุผ่านพ้น ???

---@@@---

“ใครไม่โดนอย่างผม ไม่รู้หรอกครับ มันกดดันแค่ไหน โดนข้อหาเป็นฆาตกร ฆ่าพี่ชายตัวเอง โอ้..ใครจะมองดีล่ะครับ ไปไหนมาไหน มีแต่คนจ้องจับตามอง ถามว่าอึดอัดไหม มันสูญเสียความเป็นส่วนตัว แต่เขาคงไม่วิพากษ์วิจารณ์ตะโกนดัง ๆ ให้ได้ยินหรอกครับ

ผมไปร้านค้าผมที่ขายเสื้อผ้า ลูกค้าเดินเข้าไปต่อว่าพนักงานเลยว่า นายเธอมันเป็นฆาตกร ฆ่าได้แม้กระทั่งพี่น้อง เลิกซื้อ เลิกใช้ ได้รับผลกระทบเยอะมาก จนปี 47 ผมต้องตัดสินใจขายหุ้นในบริษัทออกไป 49% ในราคาที่ขาดทุน เพื่อให้คนที่มีความสามารถเข้ามาร่วมบริหารและดูแลแทนเรา ขึ้นศาลตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี จะได้หยุดคือ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ไม่ต้องทำอะไรเลย วัน ๆ หนึ่ง หมดไปกับเรื่องพวกนี้”

---@@@---

เหมือนฟ้าหลังฝน ที่พายุผ่านพ้น หรือพายุใหญ่...กำลังจะพัดมาใหม่ ???.

วิญญาณพี่ห้างทอง เฮี้ยน

วันนี้ห้องที่ ห้างทอง ธรรมวัฒนะ เสียชีวิต ไม่ได้ถูกปิดตาย หรือถูกเก็บไว้แต่อย่างไร แต่กลายเป็นห้องของลูกสาวสุดรักของนพดล น้องดรีม หรือ ดลนภา ธรรมวัฒนะ

“ไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะห้างทอง คือ พี่ผม เป็นลุงของน้องดรีม

ถึงวันทำบุญให้พี่ห้างทุกปี ผมพูดเสมอว่า พี่ห้างทองมีอะไร ก็มานะ แต่พี่ห้างทองไม่เคยมาเลย ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ และไม่เคยเข้าฝันผมเลยสักครั้งเดียว แต่ผมเชื่อว่า วิญญาณพี่ห้างทองเฮี้ยน และมีส่วนทำให้ความจริงปรากฏ คิดดูสิครับว่า ผมร้องขอผ่าศพกี่ครั้ง ก็ไม่เคยได้ แม้แต่การอายัดศพครั้งสุดท้าย ก็ไม่ได้ จนกระทั่งมีการจะเอาศพพี่ห้างไปเผาทิ้ง พี่ห้างเลยไปดลบันดาลให้ศาลท่านเห็นพ้องที่จะให้ผ่าศพ (ครั้งที่ 3) พอผ่าเสร็จ จะเผา ก็เผาไปเถอะ เพราะตอนนี้หลักฐานปรากฏชัดเจนแล้ว พี่ห้างฆ่าตัวตาย ไม่ได้ถูกฆาตกรรม”

ดวงวิญญาณของห้างทอง คงไปสู่สุคติภพแล้ว ณ บัดนี้ ........

ชุติมา บูรณรัชดา / เชาวลี ชุมขำ เรื่อง
สุรเชษฏ์ วัชรวิศิษฏ์ ภาพ
ที่มา dailynews