วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

"เฮียฮ้อ"แฉแหลก "แอนนี่"ขออยู่เงียบ "จุ๊น"ปัด

"เฮียฮ้อ"แฉแหลก "แอนนี่"ขออยู่เงียบ "จุ๊น"ปัด เฮียฮ้อแฉฝ่ายหญิงคบผู้ชายพร้อมกัน 4 คน สองในสี่มีฟิล์ม รัฐภูมิ และจุ้น- กิตติคุณอยู่ด้วย แอนนี่บอกอยากอยู่เงียบ ส่วน "จุ๊น" ปัดไม่เคยมีอะไรกับแอนนี่

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่อาคารเชษฐโชติศักดิ์3 ชั้น 7 นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส ได้เปิดแถลงข่าวถึงกรณีของฟิล์ม แอนนี่ และ อาร์เอส ถึง 3 ประเด็นหลัก ดังนี้ 1.กรณีปัญหาของฟิล์มและแอนนี่ เกี่ยวกับสถานการณ์และแง่มุมอื่น ๆ 2. อนาคตของฟิล์มที่อาร์เอสตัดสินใจแล้ว 3. กรณีของแอนนี่

โดยเฮียฮ้อ ได้ฝากถึงประเด็นสื่อมวลชนที่ว่า “กรณีของฟิล์มและแอนนี่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ และสื่อให้พื้นที่มากเกินไป ถึงจะเป็นเรื่องของคน 2 คน แต่ฟิล์มและแอนนี่เป็นคนของประชาชน มันก้าวข้ามเรื่องส่วนตัวและเป็นประเด็นที่สังคม สื่อมวลชนควรที่จะเกาะติด เพราะกรณีของฟิล์มและแอนนี่ มีผลถึงภาพลักษณ์และจริยธรรม ที่สำคัญมีผลต่อภาพลักษณ์ของวงการบันเทิง ซึ่งสื่อต้องช่วยกันดูแลและมีส่วนรับผิดชอบร่วมกัน เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้น เฮียได้ช่วยจัดการปัญหาด้วยความอดทน ระมัดระวัง ใช้เหตุผลและที่สำคัญอย่าให้อารมณ์มาอยู่หนือเหตุผลและความถูกต้อง”

ทั้งนี้ เฮียฮ้อ ได้ฝากนิยามถึงกรณีของฟิล์มและแอนนี่ว่า “ความจริงจะปกป้องทุกคน” ซึ่งยืนยันว่าเรื่องนี้จะจบอยู่ในกรอบ แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ในฐานะผู้ดูแลฟิล์ม อาร์เอสเองคงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ตลอดเวลากว่า 10 วันที่เป็นข่าวมานั้น สิ่งแรกที่เฮียบอกอยู่เสมอ คือ ลูกผู้ชายกล้าทำต้องกล้ารับ เฮียเชื่อว่าฟิล์มพูดความจริง แต่อาจจะพูดไม่หมด ซึ่งในส่วนของเฮีย เฮียไม่สนใจข้อมูลฟิล์มและแอนนี่มาก แต่เฮียจะหาข้อมูลเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์ ยืนยันไม่ได้ เฮียจะตัดทิ้ง

ตามด้วย ประเด็นที่ทำเอาบรรดาสื่อมวลชนถึงกับฮือฮาในการแถลงข่าวครั้งนี้ เกี่ยวกับพฤติกรรมของนักแสดงสาวแอนนี่ที่ว่า “เฮียมีข้อมูล 1 ปี ที่แอนนี่คบกับเพื่อนชายจำนวนมากน้อยเท่าไหร่ ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคมปีที่ผ่านมา แอนนี่ได้พูดในลักษณะเดียวกัน แบบเดียวกันกับผู้ชาย 4 คน ว่าเป็นพ่อของลูก และได้ขอเงินจำนวน สองแสนห้าหมื่นบาท ซึ่ง 2 ใน 4 คน ก็คือ ฟิล์ม – รัฐภูมิ และ จุ๊น – กิตติคุณหรือจุ๊น เดอะกิ๊ก ซึ่งถ้ามองผู้ชายในแง่ของจริยธรรมเป็นเรื่องที่ผิด แต่มองอีกมุมหนึ่งก็น่าสงสารมาก โดยกรณีจุ๊น-เดอะกิ๊กนั้น ได้รับการยืนยันจากผู้บริหารทางช่อง 3 ว่าจุ๊นได้มาเล่าความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ฟัง ซึ่งเฮียว่าฟิล์มและจุ๊นคือเหยื่อของการกระทำครั้งนี้ ในครั้งนั้นจุ๊นตกใจมากและแก้ปัญหาในทางคล้าย ๆ กัน แต่เป็นการแก้ปัญหาในทางที่ผิด โดยจุ๊นให้ความช่วยเหลือเป็นเงินจำนวน 2 แสนกว่าบาทและหนีไปต่างประเทศ ซึ่งผมว่าข้อมูลทั้งหมดสะท้อนพฤติกรรม แต่อีก 2 คน ต้องรอให้พร้อมเปิดเผยตัว ซึ่งมีความซับซ้อน ก็อยากวอนให้สื่อมวลชนช่วยกันหาความจริง อย่าปล่อยไว้แบบนี้”

ผู้สื่อข่าวถามต่อในกรณี อนาคตเรื่องงานของฟิล์ม ซึ่งเฮียฮ้อได้เผยว่า “จะคืนโอกาสเรื่องงานให้ แต่มีเงื่อนไข โดยต้องดูว่างานบางชิ้นที่ยกเลิกไปแล้ว แต่งานบางชิ้นก็สามารถทำต่อได้ โดยตัวฟิล์มต้องยอมรับในเงื่อนไข ซึ่งประเมินความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 5-6 ล้านบาท โดยเป็นงานโชว์ตัวทั้งหมดของเดือน กันยายน – กลางเดือนตุลาคม 53 และ งานพรีเซ็นเตอร์ประมาณ 3 ตัวที่เสียหายทันที ส่วนกรณีหนังเรื่องบางกอกกังฟู น่าจะมีปัญหาในเรื่องของคิวดาราคนอื่น ๆ ที่ค่อนข้างยุ่ง ส่วนกรณีงานกับทางเกาหลีนั้น ทีมงานได้ประสานอยู่ตลอด ซึ่งทางเกาหลีก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร เพราะเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจนออกมา เค้าก็ไม่ได้กังวลอะไรกับปัญหานี้”

เฮียฮ้อได้ฝากถึงแอนนี่ว่า “แอนนี่ควรจะหยุดพฤติกรรมได้แล้ว สารภาพและพูดความจริง แม้จะสายไป แต่มีโอกาสแก้ไขได้ เชื่อว่าสังคมต้องให้อภัย เรื่องนี้มีเด็กเกิดขึ้น อย่าทิ้งปัญหาทุกอย่างไว้ที่เด็ก ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ไม่มีใครหนีความจริงไปได้ ควรจะจบๆได้แล้ว คนที่ท้าทายความจริงหนีไม่พ้นสักราย เพราะข่าวนี้กินพื้นที่มาหลายวันแล้ว ควรจะจบได้แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า กลัวแอนนี่ฟ้องมั๊ย “เฮียพูดแต่ในเรื่องที่มีการยืนยันได้ ซึ่งจุ๊นเองก็ได้ยืนยันกับทางช่อง 3 แล้วว่าเป็นเรื่องจริงและต่อข้อซักถามที่ว่า การตรวจดีเอ็นเอ จำเป็นอีกมั๊ยและกลัวมีการแทรกแซงเปลี่ยนแปลงผลหรือไม่ “จริง ๆ มีความจำเป็น เป็นความจำเป็นของแอนนี่ว่าใครเป็นพ่อของเด็ก ซึ่งถ้าเป็นลูกของฟิล์ม เค้าก็พร้อมจะยอมรับ อย่างที่เคยพูดไป ซึ่งทางอาร์เอสไม่ได้มีการประสานงานกับทางแอนนี่ในการตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจากเป็นเรื่องของทางครอบครัวฟิล์ม ส่วนกรณีของการเปลี่ยนแปลงผลการตรวจนั้น เป็นไปไม่ได้”

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึง เฮียฮ้อจะมีมาตรการอะไรกับฟิล์มและแอนนี่มั๊ย "เฮียได้ให้แนวทางว่าฟิล์มต้องติดต่อกับแอนนี่ ซึ่งฟิล์มก็ได้ทำการติดต่อแอนนี่ไปแล้ว การโทรศัพท์ทุกครั้งมันมีหลักฐานหมด พูดอะไรสามารถตรวจสอบได้หมด"

ส่วนกรณีที่ว่าทำไมฟิล์มถึงไม่ไปเคลียร์กับแอนนี่ที่รายการตีสิบ ซึ่งทางเฮียฮ้อเผยว่า “เฮียแนะนำว่า ไม่ควรไปดักเจอ เพราะการไปเจอแบบนั้นไม่เหมาะ อย่างที่ทราบแอนนี่เค้าก็บอกชัดเจนแล้วว่าถ้าฟิล์มไป แอนนี่ก็ไม่เจอ”

ทั้งนี้ เฮียฮ้อได้ฝากทิ้งท้ายถึงกฎเหล็กของอาร์เอสที่ว่า “การทำงานกับอาร์เอส กฎที่สำคัญคือไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดและห้ามทิ้งงาน ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นไม่สามารถร่วมงานกับอาร์เอสได้แน่นอน ซึ่งเฮียก็รู้ว่าศิลปินวัยรุ่น มีชีวิตอิสระ แต่ถ้าอยู่ในกรอบก็โอเค แต่ถ้าหลุดไปบ้างก็คงต้องเรียกมาตักเตือน”

ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น.ที่บ้านสวนธนคอนโดมิเนียม ซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 9 ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของแอนนี่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน ดาราสาวเก็บตัวเงียบ หลังจากที่เมื่อวาน(27 ก.ย.)แอนนี่ได้เดินทางไปอัดรายการ ตี10 นอกจากนั้น รถยนต์ส่วนตัว ยี่ห้อ Ford รุ่น Focus สีขาว ของแอนนี่ ยังคงจอดอยู่ที่ลานจอดรถที่เดิม

ทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ขึ้นไปสอบถามแอนนี่ ถึงกรณีที่ทางเฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจง กรณีฟิล์ม-แอนนี่ และทางเฮียฮ้อได้กล่าวถึงแอนนี่ว่า ได้คบหาผู้ชาย 4 คนและเรียกเงิน 2.5 แสนบาท จากรายงานข่าวข้างต้นนั้น โดยแอนนี่ได้กล่าวว่า "ตนยังไม่รู้เรื่องที่แถลงข่าว ยังไม่ได้ดูข่าวที่เฮียฮ้อออกมาแถลงข่าว"

นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามต่ออีกว่า ถ้าทางจุ๊น-กิตติคุณ จะนำหลักฐานการโอนเงิน และเอกสารเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างประเทศ ในช่วงเวลาดังกล่าวออกมาเปิดเผยทางแอนนี่จะว่าอย่างไร ทางแอนนี่ได้ตอบว่า "ตนขออยู่อย่างเงียบๆ ไม่ข้อให้ข้อมูลใดๆ หน้าที่ของตนเวลานี้มีหน้าที่เดียว คือเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด โดยเฉพาะเวลานี้ น้องฑีฆายุงอแงมาก" ซึ่งผู้สื่อข่าวใช้เวลาเพียง 1 นาทีกว่าๆ ในการสนทนากับแอนนี่

ท้ายสุดทางแอนนี่ได้ขอร้องให้สื่อมวลชนที่เฝ้าทำข่าวอยู่ข้างล่างคอนโดมิเนียม เดินทางกลับไปก่อน เพราะวันนี้จะอยู่แต่ในที่พัก ไม่ออกไปไหน ตนไม่มีอะไรจะพูดแล้วและขอเวลาเป็นส่วนตัวกับลูกบ้าง

ด้าน จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามนางจันทร์คำ มีเลข แม่ดาราสาวกรณีที่ “เฮียฮ้อ”ออกมาเปิดโปงถึงเรื่องความประพฤติ โดยนางจันทร์คำ กล่าวว่า ตนไม่ได้ดู ส่วนเรื่องแอนนี่จะคบใครตนไม่ทราบ ไม่เคยถาม รู้เพียงว่าแอนนี่เป็นคนชอบเก็บตัวไม่มั่วกับใคร เวลากลับมาบ้านก็ไม่ได้ออกไปไหน อยู่แต่ในบ้าน ยืนยันว่าลูกสาวไม่มีคนอื่น มีเพียงฟิล์มคนเดียว หากลูกสาวจะมีคนอื่นคงมีไปนานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่เรียนหนังสือแต่ก็ไม่มี ตนไม่อยากพูดถึงเพราะใครจะดีหรือไม่ดีสังคมก็จะรู้ได้เอง ในฐานะแม่ก็ย่อมรักและเป็นห่วงอยากปกป้องลูก แต่การปกป้องคงไม่ใช่การออกมาพูดแบบไร้สาระ และเป็นเรื่องส่วนตัว.

ล่าสุด ที่ห้างสยามพารากอน ค่ำวันเดียวกัน จุ๊น-กิตติคุณ เดินทางมาเปิดตัวสินค้ายี่ห้อหนึ่งพร้อมผู้จัดการ ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น ได้ยินข่าวแรก ๆ ก็ไม่รู้สึกอะไร แต่นับวันยิ่งหนักขึ้น บางกระแสระบุว่าตนหนีไปอเมริกา ส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้จักกับแอนนี่เป็นการส่วนตัว ไม่ได้สนิทสนมกันเลย เคยเจอนานมากแล้ว ที่ออกมาพูดเนื่องจากอยากให้ข่าวเงียบลง เนื่องจากฝ่ายหญิงเสียหายมามากแล้ว รู้สึกสงสารแอนนี่กับลูกชายเขามาก

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรกรณีเฮียฮ้อ ออกมาพูดพาดพิง หนุ่มจุ๊นชี้แจงว่า "ผมเป็นเด็ก ไม่ได้โกรธอะไร เคารพผู้ใหญ่ทุกคน ไม่อยากจะไปพาดพิงถึงบุคคลที่สาม อยากจะชี้แจงในส่วนผมกับแอนนี่เท่านั้น"

เมื่อถามต่อว่า กระแสข่าวว่าแอนนี่ใหจ่ายเงิน 250,000 บาทเพื่อเป็นพ่อเด็ก จุ๊น ตอบว่า เป็นเรื่องไม่จริง สมมุติมีคนมาจ้างให้รับเป็นพ่อเด็กใครที่ไหนเขาจะยอม ส่วนเรื่องมีคนจ้างให้มาเป็นแพะรับบาปด้วยเงิน 10 ล้านบาทนั้น ประเด็นนี้ก็ไม่มีแน่นอน เงินซื้อผมไม่ได้ ยังไงความจริงต้องเป็นความจริง ส่วนกระแสว่าจะรับเป็นพ่อเด็กก็ไม่มีเช่นกัน"

เมื่อถามต่อว่า กล้าตรวจดีเอ็นเอหรือไม่ ดาราหนุ่ม ตอบว่า "กล้า ผมไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับแอนนี่ ในมุมกลับกันเมื่อไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแล้วทำไมผมต้องตรวจ เรื่องที่เกิดขึ้นทางผู้ใหญ่ทางช่อง 3 ก็ได้เรียกไปคุยบ้าง

ถามว่า จะฟ้องกรณีถูกพาดพิงหรือไม่ จุ๊น ตอบว่า มันก็ขึ้นอยู่กับว่า ถูกพาดพิงขนาดไหน ส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด ถ้าส่งผลต่ออาชีพและครอบครัวก็คงต้องฟ้อง ส่วนที่มีคนบอกว่าเด็กหน้าเหมือนผม ผมยังไม่เคยเห็นหน้าน้องเขาเลย.
ที่มา dailynews