วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2554

อึ้ง “นาธาน” เล่นของ

อึ้ง “นาธาน” เล่นสกปรกทำของใส่ โดนัท,เฮียฮ้อ,เอกชัย,แหม่ม พัชริดาฯลฯ
ผงะหลักฐานเด็ดโผล่ “นาธาน” เล่นสกปรกทำของใส่ โดนัท มนัสนันท์ , เฮียฮ้อ ,เอกชัย ,แหม่ม พัชริดา ,ต้น ลาวัณย์ - หน่อย จำนรรค์ ผู้บริหารเจเอสแอล และต่อพงษ์ เศวตามร์ บก.ข่าวบันเทิงASTV ผู้จัดการออนไลน์ เพื่อให้รักและเมตตาตนเอง ด้าน “ครูแหม่ม” เผยนักร้องจอมลวงโลกชอบและเชื่อเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว

ถึงจะเข้าคุกคดีฉ้อโกงเงิน “น้ามด” สิทธิพร โคตรอุดมพร สบายก้นไปแล้วเพราะไม่ต้องวิ่งหนีเจ้าหนี้ให้เมื่อย แต่เรื่องราวของ “นาธาน โอร์มาน” อดีตนักร้องลวงโลกก็ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อ “ต้อม” อุทัย โคตรอุดมพร ลูกชายของน้ามดได้เข้าไปรื้อค้นข้าวของนาธานที่เอามาทิ้งไว้ที่บ้าน เพื่อหาหลักฐานมาใช้ประกอบคดี ปรากฏว่านอกจากจะเจอเอกสารสำคัญที่ใช้ในการเอาผิดนาธานได้แล้ว ก็ยังไปเจอกล่องปริศนาที่พอเปิดออกมาถึงกับผงะ เพราะในกล่องนั้นมีกระดาษที่ถูกม้วนด้วยด้ายขาวมัดรวมกันไว้ ในลักษณะเหมือนทำไสยศาสตร์

เมื่อแกะออกดูก็พบภาพของ โดนัท มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล , เอกชัย ศรีวิชัย ,แหม่ม พัชริดา วัฒนา ดาราและนักร้องชื่อดัง ,เจ๊ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ผู้บริหารเอไทม์ , ต้น ลาวัณย์ กันชาติ ,หน่อย จำนรรค์ ศิริตัน สองผู้บริหารเจเอสแอล เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ผู้บริหารค่ายอาร์เอสกับ สุจีรา เชษฐโชติศักดิ์ ภรรยา,แพท พัทริกา ลิปตพัลลภ ช่างภาพและนักเขียนนิตยสารดิฉัน และต่อพงษ์ เศวตามร์ บรรณาธิการข่าวบันเทิง ASTV ผู้จัดการออนไลน์ และผู้อำนวยการช่องซูเปอร์บันเทิง

โดยด้านหลังภาพของ ต้น ลาวัณย์ ,หน่อย จำนรรค์ ศิริตัน ,เอกชัย ศรีวิชัย ,สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ,เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ กับภรรยาจะมีการวาดภาพที่เป็นรูปคน 2 คน โดยคนแรกเขียนว่าชื่อ “นาทาน” ส่วนคนที่สองไม่ได้เขียนชื่อ แต่ภาพของคนที่สองนั้นจะมีการวาดภาพหัวใจตรงกลาง และลากเส้นจากหัวใจไปยังภาพที่เขียนชื่อว่านาทาน และมีการเขียนอักขระ

แต่ภาพของโดนัท มนัสนันท์ , แหม่ม พัชริดา วัฒนา , แพท พัทริกา ลิปตพัลลภ และต่อพงษ์ เศวตามร์ จะมีการวาดภาพข้างหลังที่แตกต่างจากภาพของคนอื่นๆ คือ จะไม่มีการวาดภาพคนแต่จะมีการเขียนอักขระและวาดเป็นภาพสี่เหลี่ยมลักษณะเหมือนยันต์ ซึ่งต้อมก็ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า.....

“ตอนที่นาธานทะเลาะกับพ่อครูแหม่ม ก่อนที่เขาจะออกไปจากบ้านเขาก็เอาของมาฝากไว้ที่บ้านผม แต่พอมีเรื่องคดีเขาก็ไม่กลับมาเอาของอีกเลย ผมก็เลยไปค้นหาหลักฐานเผื่อจะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคดีของแม่บ้าง และก็ไปเจอกระเป๋าใบนี้ก็จะเจอเอกสารต่างๆ พวกบัตรเครดิตและก็บุคแบงค์ของน้าแอ๊ะ(นันทนาพร พรายแสง)และก็สำเนาบัตรประชาชนของเขาและก็ใบเปลี่ยนชื่อ แต่ที่เห็นแล้วตกใจก็คงจะเป็นกล่องๆ หนึ่งที่แกะออกมาแล้วเป็นกระดาษที่มีรูปภาพของโดนัท , ต้น ลาวัณย์ กันชาติ ,หน่อย ,เอกชัย ศรีวิชัย ,สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ,เฮียฮ้อกับภรรยา,แหม่ม พัชริดา วัฒนา ,แพท พัชริกา ลิปตพัลลภ และต่อพงษ์ เศวตามร์ พันด้วยด้ายสีขาวมัดรวมกัน และด้านหลังของแต่ละภาพก็จะมีการเขียนอักขระ เราก็ตกใจว่าเขาเล่นของขนาดนี้เลยหรอ ก็หาชื่อแม่ว่ามีหรือเปล่าแต่ปรากฏว่าไม่มี แม่ก็ตกใจเหมือนกันกลัวจะมีชื่อตัวเอง”

ด้าน “ครูแหม่ม” พิสมัย ศรีกระบุตร ก็ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวว่า เห็นแล้วรู้สึกขนลุกและเป็นห่วงคนที่อยู่ในรูปอยากจะให้ไปทำบุญ พร้อมทั้งเผยว่าคนที่อยู่ภาพล้วนเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับนาธาน และตลอดระยะเวลาที่รู้จักนาธานมาเป็น 10 กว่าปี นาธานค่อนข้างมีความสนใจและเชื่อในศาสตร์ลี้ลับ
“คนที่อยู่ในภาพส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับนาธาน อย่างเฮียฮ้อกับภรรยาก็เคยสนับสนุนเขา และเขาก็ค่อนข้างสนิทสนมกับภรรยาเฮียฮ้ออยู่ช่วงหนึ่ง ยังเคยจะไปออกแบบที่พักให้ภรรยาเฮียฮ้อ จนกระทั่งพี่ชิ(อนุชา ลังประเสริฐ) ที่เคยสนับสนุนเขาและก็คัดเลือกเขามาเป็นนักร้องมีเรื่องกับเขา และนาธานเขาก็แบบวาทศิลป์ดีและเขาก็สนิทสนมกับภรรยาเฮียฮ้อ ก็ยุให้คนนั้นทะเลาะกับคนนี้ตอนนั้นพี่ชิก็เลยมีผลกระทบเรื่องงาน”

“อย่างพี่แหม่ม พัชริดานี่ก็ให้ความรักความเมตตานาธานมาก เมตตาตั้งแต่เป็นนักร้องฝึกหัดเขาจะสงสารนาธาน เขาเหมือนครูแหม่มสงสารนาธาน นี่นาธานยังเคยเล่าให้ฟังเลยนะว่า แม่ของพี่แหม่มเขาเอ็นดูนาธานยังเคยเอาผ้าห่มมาให้ที่คอนโดเลย ส่วนมากนาธานเขาจะเจอแต่คนดีๆ คอยช่วยเหลือเขานะ อย่างเจเอสแอลก็เอาเขาไปออกรายการกับน้องอ้อมดักแด้ แต่ที่หนักก็คือไปหลอกเขาเรื่องถ่ายหนังต่างประเทศจนเขาเอาไปออกรายการ”

“กับโดนัทนี่ก็ได้ยินนาธานเล่าว่าเขาสนิทกันเคยไปเนปาลด้วยกัน เขายังเคยเอาชื่อของโดนัทมาสร้างเครดิตให้กับตัวเอง เขาเคยไปบอกเพื่อนน้องต้อม(ลูกน้ามด) ว่า จะไปนอนที่คอนโดของโดนัท ส่วนกับเอกชัยเขาก็เมตตาสงสารนาธานเหมือนผู้ใหญ่สงสารเด็กเพราะนาธานตัวคนเดียว ก็ให้ความช่วยเหลือ แต่พอมารู้เรื่องจริงก็ออกไปเลย”

“คนที่อยู่ในรูปส่วนใหญ่จะเป็นดาราหรือเป็นคนที่มีชื่อเสียง อย่างคุณต่อพงษ์เขาก็มีชื่อเสียงนะ แต่ตอนแรกที่เห็นรูปจำไม่ได้ แล้วก็มาคิดถึงตอนที่ไปงานซูเปอร์บันเทิงก็เลยจำได้ว่าเป็นคุณต่อพงษ์ ก็งงว่าเอามาทำไมเพราะแกไม่ใช่ดารา แต่พอคิดถึงข่าวของนาธานที่ผู้จัดการนำเสนอ ก็เลยเข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงโดน เพราะข่าวของผู้จัดการแน่และก็จริง แล้วถ้าเล่นใครมันเรื่องจริงไง”

“ที่ผู้จัดการไปแฉเขาเปิดเผยความจริงมันคมชัดลึกมากเลย ที่เหนือไปกว่านั้นก็คือมันจริง ซึ่งตอนแรกเราไม่เชื่อเลยเพราะภาพลักษณ์นาธานเขาน่ารักช่วยเหลือคน แต่ข่าวของผู้จัดการจุดประกายเรื่องจริงขึ้นมา เป็นการเปิดโปงความจริงทั้งหมด ทำให้เขาคงจะแค้นก็เลยทำเรื่องพวกนี้ใส่”

“ครูแหม่มรู้จักเขามาเป็น 10 ปีรู้ว่าเขาจะชอบและเชื่อเรื่องพวกนี้มาก เขายังเคยบอกผู้มีพระคุณของเขาเลยแต่ขออนุญาติไม่เอ่ยชื่อนะว่าเป็นใคร เขาก็บอกว่าผู้มีพระคุณของเขาเป็นพญานาคอยู่ที่เชียงคาน เคยเป็นเจ้าหญิงอยู่ที่เชียงคานอะไรพวกนี้ แล้วก็เคยเห็นเขาพกพวกของขลังคล้ายๆ พระเป็นเม็ดกลมๆ ดำๆ คือวัยอย่างเขาไม่น่าจะเชื่อของพวกนี้ แต่เขาเชื่อ เวลาเขาจะทำอะไรก็จะดูฟ้าดูดินก่อน”

“พอมาเห็นแล้วตกใจรีบถามน้องต้อมมีชื่อพี่แหม่มไหม ปรากฏว่าเป็นคนละแหม่ม คิดว่าที่ไม่มีคงเป็นเพราะว่าตอนนั้นยังอยู่ข้างเขาอยู่ ใครมาบอกอะไรเรื่องนาธานก็ไม่เชื่ออันนี้เดาเอานะ กับน้ามดก็เหมือนกันที่ไม่มีอาจจะเป็นเพราะตอนนั้นยังดีกับเขาอยู่ พอมาเห็นของพวกนี้แล้วขนลุก รีบไปรื้อดูที่บ้านมันมีแบบนี้ซุกไว้ที่ไหนหรือเปล่าก็ไม่มี แล้วก็นึกไปถึงคนที่อยู่ในรูปจะเดือดร้อนไหม ผู้หลักผู้ใหญ่ก็เลยบอกว่า ใครที่ทำของทำอะไรมาเราต้องเอาลอดขาก่อนเลย ครูแหม่มก็เอามาลอดขาเลย ถึงไม่มีเราก็ลอดไว้ก่อนเพราะไม่อยากให้ใครมาเป็นอะไร”

“ก็อยากจะให้คนที่มีรูปอยู่ในนี้ไปทำบุญทำทานเยอะๆ สิ่งดีๆ จะได้มาช่วยนำพาเรา คนเราเวลาเดือดร้อนก็จะนึกถึงพระก่อน อย่างวันที่ขึ้นศาลน้ามดไปเจอหน้านาธานปรากฏว่านาธานก็ไม่มองหน้า น้ามดก็นั่งท่องพุทโธๆ ในใจ ครูแหม่มก็กดโทรศัพท์บริจาควัดพระบาทน้ำพุ ก็จะมีเสียงพระมาให้พรเรา จะช่วยดับความร้อนในจิตใจเรา ก็อยากจะให้ทุกคนทำบุญเยอะๆ ยิ่งใครที่มีรูปในนี้ก็อยากจะให้ไปทำบุญจะได้เป็นสิริมงคล ของอย่างนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่”

“แต่นาธานนี่ไม่รู้ยังไง ใครเจอเขาก็รัก อย่างที่บ้านของครูแหม่มตอนที่ดูข่าวเรื่องพี่เต็ม(สมาน สุขเสริม)ก็ไม่ชอบนะ แต่พอเห็นตัวจริงนาธานก็อดสงสารไม่ได้ ทำไมเขาน่ารักอย่างนี้ เป็นคนที่เอนเตอร์เทนคร๊าบๆ จะเลี้ยงยายไปตลอดชีวิต น้ามดก็จะเลี้ยงจะสร้างบ้านให้ใหม่ มาอยู่ใหม่ๆ ก็จะกวาดบ้านเก็บขยะซึ่งจริงๆ นาธานเขาไม่ชอบสิ่งเหล่านี้หรอก แต่อันไหนที่เป็นผลประโยชน์เขาจะทำ วันนั้นก็ซื้อเหล้าไปให้แฟนน้ามด 3 ขวดบอกว่าไปเดินแบบมาได้ เพื่อที่จะให้แฟนน้ามดยอมเซ็นต์ให้เอาที่ไปจำนอง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เงินนาธานหรอกเป็นเงินน้ามดนี่แหละ”

“ใครที่เห็นนาธานแล้วจะรักทุกคน อย่างกับครูแหม่มเห็นครั้งแรกเขายกมือไหว้บอกตัวเองกำพร้าพ่อแม่เป็นลูกครึ่งเนปาลอยู่กับย่า เจอกันครั้งหน้าก็บอกย่าตายแล้วตอนนี้อยู่คนเดียวเราก็สงสาร เขาจะอ่อนน้อมถ่อมตนมากแต่ลับหลังปากร้ายมาก”

อย่างไรก็ตามเพื่อความกระจ่าง ทีมข่าวบันเทิง EXCLUSIVE ผู้จัดการออนไลน์ ได้นำเอาภาพที่มีการลงอักขระดังกล่าวไปสอบถาม “ครูสอนศาสนาอิสลาม” คนหนึ่งในอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นอำเภอที่นาธานเคยหนีตำรวจคดี “แม่บ้านเต็ม สมาน สุขเสริม” ไปอาศัยอยู่กับชาวอิสลามที่นั่น โดยในครั้งนั้นแหล่งข่าวที่อยู่ใกล้กับบ้านที่นาธานไปพักอยู่นั้น ได้เปิดเผยว่า นาธานมาทำพิธีอาบน้ำล้างซวยและทำพิธีกรรมบางอย่างที่บ้านหลังนั้นด้วย

ซึ่งทันทีที่ครูสอนศาสนาอิสลามเห็นภาพดังกล่าวก็บอกว่า เป็นการทำพิธีกรรมเพื่อให้ได้รับความเมตตาทำให้คนในภาพรักและหลง ซึ่งอักขระดังกล่าวนั้นก็คือ ภาษามลายู ที่มักจะใช้กันใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
“อันนี้เป็นภาษามาเลย์หรือมลายู ที่มีภาพคนสอง คนหนึ่งเขียนภาษาไทยว่า นาทาน ส่วนอีกคนเขียนเป็นภาษามลายู บางภาพก็เขียนเป็นภาษามลายูว่าผู้หญิง บางภาพก็เขียนเป็นภาษามลายูว่าผู้ชาย และก็มีการเขียนโยงหัวใจไปยังภาพที่ชื่อว่านาทาน ก็คือทำให้รักทำให้เมตตา”

ส่วนภาพและสัญลักษณ์ต่างๆ ที่อยู่ข้างหลังภาพของ โดนัท มนัสนันท์ , แหม่ม พัชริดา วัฒนา , แพท พัทริกา ลิปตพัลลภ และ ต่อพงษ์ เศวตามร์ ที่มีลักษณะเหมือนการลงยันต์นั้น ครูสอนศาสนาอิสลามได้อธิบายความหมายไว้ว่า เป็นการเขียนยันต์เพื่อความเมตตาของอิสลามเช่นกัน
“อันนี้ที่เป็นรูปกากบาทเป็นเหมือนผ้ายันต์อย่างหนึ่ง เหมือนทำยันต์เพื่อความเมตตาไม่ใช่การแช่ง เป็นยันต์อย่างหนึ่งของอิสลามเขียนเพื่อให้หลงรัก ส่วนตัวอักษรนี่อ่านไม่เป็นภาษาเพราะเขียนเป็นตัวอักษรพยัญชนะเหมือนเขียน ก ข ฃ ค ”

“ลักษณะการเขียนแบบนี้ไม่เคยเห็นในพิธีกรรมของอิสลาม แต่ว่าเคยเห็นในตำราบางเล่ม คือถ้าต้องการชอบหรือหลงรักใครซักคนก็ต้องทำแบบนี้และก็ต้องพยายามสวดวิงวอน แต่อันนี้ทำขึ้นเองไม่ได้ต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญชำนาญ”

“พอทำแล้วสำหรับบางคนก็จะมีการห้ามในเรื่องต่างๆ เช่น ห้ามลอดราว หรือแบบถ้าทำแบบนี้แล้วใส่กระเป๋าเอาไว้แล้วแต่ถ้าจะเข้าห้องน้ำต้องเอาออกไม่งั้นมันจะเสื่อม มันก็จะไม่เกิดประโยชน์ไม่ได้ผล สวดเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล ส่วนคนที่ถูกทำก็จะมารักคนที่ทำหรือบางครั้งถึงขั้นหลงใหล ขึ้นอยู่กับการสวดด้วย”

“คนที่สวดก็คือคนที่ทำ คือนาธานอาจจะไม่ได้สวดเองแต่ให้คนที่ทำพิธีเป็นคนสวดให้และก็ให้ซองขาวไป ถึงของสิ่งนี้จะอยู่กับนาธานแต่คนที่ทำพิธีก็สามารถสวดให้ได้ อย่างสมมติผมเป็นหมอแล้วคุณเป็นนาธาน ก็บอกว่าเขาชอบคนนั้นคนนี้ให้หมอทำให้หน่อยสิ แล้วก็ให้หมอช่วยสวดให้หน่อยมันก็เป็นไปได้”

“การทำแบบนี้ไม่ใช่เป็นการทำให้ผู้หญิงมาหลงรักผู้ชาย หรือผู้ชายหลงรักผู้หญิง แต่ทำให้ผู้ชายมาหลงรักผู้ชาย ผู้หญิงหลงรักผู้หญิงด้วยกันก็ได้ คนที่ถูกทำก็มีผลก็คือทำให้หลงรักคนที่ทำ แต่จะไม่เป็นแบบสรีระเปลี่ยนแปลงหรือหน้าตาหมองคล้ำ จริงๆ แล้วอันนี้ก็ถือว่าเป็นด้านดีเพราะทำให้คนรักไม่ได้ทำให้คนเกลียด แต่ถ้าเป็นพวกหมอเขมรทำให้คนเกลียดสรีระก็อาจจะเปลี่ยนแปลง แต่อิสลามไม่มีทำด้านนั้น”

“แต่ส่วนมากคนอิสลามเขาไม่ใช้กันหรอก คนที่ใช้ก็คือหมอดูหมอทำของอะไรต่างๆ อิสลามเขาไม่ทำกันหรอก แต่ก็มีอิสลามบางคนที่ศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ มันเป็นตำราที่มีไว้ศึกษาเท่านั้นว่ามันมีอยู่ แต่เขาจะไม่เอามาใช้กันเพราะทำลำบากทำยาก”

“ถามว่าเหมือนการทำเสน่ห์หรือเล่นของแบบของไทยหรือเปล่า ก็ต้องบอกว่ามีส่วน(เหมือนการทำไสยศาสตร์ของไทยหรือเปล่า) ก็มีส่วน คือตำรานี้มันมีแต่เขาไม่ทำกัน ศึกษาค้นคว้าแต่ไม่ทำกัน ตำราตัวนี้ไม่มีตัวอย่างให้ดูเพราะคนที่ศึกษาพวกนี้จะต้องเป็นพวกหมอดูหรือพวกเล่นของ”

ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าบุคคลที่อยู่ในภาพนั้นส่วนใหญ่จะเคยเกี่ยวข้องและออกมาปกป้อง “นาธาน” กรณีลวงโลกโกอินเตอร์และโกงเงิน “แม่บ้านเต็ม สมาน” ไม่ว่าจะเป็น โดนัท มนัสนันท์ , เอกชัย ศรีวิชัย , แหม่ม พัชริดา ส่วน ต้น ลาวัณย์ กันชาติ ,หน่อย จำนรรค์ ศิริตัน ผู้บริหารเจเอสแอล , สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ผู้บริหารเอไทม์ เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ผู้บริหารอาร์เอสและภรรยาก็ล้วนเคยมีความสัมพันธ์อันดีและให้ความช่วยเหลือนาธาน จะมีก็แต่ ต่อพงษ์ เศวตามร์ บรรณาธิการข่าวบันเทิง ASTV ผู้จัดการออนไลน์ และผู้อำนวยการช่องซูเปอร์บันเทิงที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับนาธาน ส่วน พัทริกา ลิปตพัลลภ ช่างภาพและนักเขียนนิตยสารดิฉันนั้น ยังไม่ปรากฏว่ามีความเกี่ยวข้องกับนาธานอย่างไร
"ต้อม" ลูกน้ามด ยกกระเป๋าของ "นาธาน" มาให้ดู
ภาพต้น ลาวัณย์-หน่อย จำนรรค์ สองผู้บริหารเจเอสแอล กับ เอกชัย ศรีวิชัย ถูกมัดไว้ด้วยด้ายขาว
ภาพด้านหน้า "ต้น ลาวัณย์" ผู้บริหารเจเอสแอล กับภาพด้านหลังที่มีการทำไสยศาสตร์เพื่อให้รักหลง "นาธาน" เป็นภาษามลายู
ภาพด้านหน้า "หน่อย จำนรรค์" ผู้บริหารเจเอสแอล กับภาพด้านหลังที่มีการทำไสยศาสตร์เพื่อให้รักหลง "นาธาน" เป็นภาษามลายู
ภาพด้านหน้า "เอกชัย ศรีวิชัย" กับภาพด้านหลังที่มีการทำไสยศาสตร์เพื่อให้รักหลง "นาธาน" เป็นภาษามลายู
ภาพด้านหน้า "เฮียฮ้อกับภรรยา" และภาพด้านหลังที่มีการทำไสยศาสตร์เพื่อให้รักหลง "นาธาน" เป็นภาษามลายู
ภาพด้านหน้า "เจ๊ฉอด" กับภาพด้านหลังที่มีการทำไสยศาสตร์เพื่อให้รักหลง "นาธาน" เป็นภาษามลายู
ภาพด้านหน้า "โดนัท มนัสนันท์" กับภาพด้านหลังที่มีการทำไสยศาสตร์เพื่อให้รักหลง "นาธาน" เป็นภาษามลายู
ภาพด้านหน้า "ต่อพงษ์" บก.บันเทิงผู้จัดการรายวัน กับภาพด้านหลังที่มีการทำไสยศาสตร์เป็นภาษามลายู
ภาพด้านหน้า "แพท พัทริกา" ช่างภาพนักเขียนดิฉันกับภาพด้านหลังที่มีการทำไสยศาสตร์เป็นภาษามลายู
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์