วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554

ขยับ! หลังธรณีเขย่า 'แผ่นดินเคลื่อน' โลกยิ่งเอียง น่ากลัว?

จากเหตุแผ่นดินไหวอีกหนึ่งครั้งใหญ่ของโลกซึ่งเกิดในทะเลที่ประเทศญี่ปุ่น ด้วยระดับ 8.9-9 ริคเตอร์ ไม่เพียงก่อให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดมหึมาช็อกโลก และทำให้เกิดการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่นที่ชาวโลกไม่อาจไม่สนใจ แต่ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ครั้งนี้ยังก่อให้เกิด ’ปรากฏการณ์โลก“ ตามมาอีก 2 อย่างด้วย...

คือ ’แผ่นดินเกิดการขยับเคลื่อน“ ราว 2.4 เมตร

และ ’แกนโลกเอียงเพิ่มขึ้น“ ราว 10 เซนติเมตร

ทั้งนี้ จากรายงานข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศ เมื่อ 13 มี.ค. อ้างอิงการระบุของนักธรณีฟิสิกส์สหรัฐอเมริกา และสถาบันธรณีวิทยาของอิตาลี เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์โลกอีกครั้งที่ญี่ปุ่นทำให้แผ่นดินบางส่วนของญี่ปุ่น คือเกาะฮอนชู เคลื่อนตัวออกไปจากแนวเดิมประมาณ 2.4 เมตร หรือประมาณ 8 ฟุต โดยมีสาเหตุมาจากการเคลื่อนที่ของรอยเลื่อนย้อนมุมต่ำตามแนวเขตเปลือกโลกแปซิฟิกและอเมริกาเหนือ และยังส่งผลให้แกนของโลกเอียงออกจากแนวเดิมเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เซนติเมตร หรือประมาณ 4 นิ้ว

2 ปรากฏการณ์โลกดังกล่าวนี้ ก็เหมือนกับเมื่อครั้งที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อปี 2547 บริเวณเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งทำให้แกนโลกเอียงเพิ่มประมาณ 2.76 นิ้ว หรือเกือบ 7 เซนติเมตร ทำให้บางเกาะเล็ก ๆ ของเกาะสุมาตราเคลื่อนไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 20 เมตร ทำให้ตอนปลายบนสุดของเกาะสุมาตราเคลื่อนจากจุดเดิมประมาณ 36 เมตร และเหมือนกับเมื่อครั้งแผ่นดินไหวที่ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2553 ที่มีนักวิทยาศาสตร์ของนาซ่าออกมาเผยว่า ทำให้แกนโลกเอียงอีกประมาณ 3 นิ้ว หรือเกือบ 8 เซนติเมตร

แผ่นดินโลกเคลื่อนขยับ-แกนโลกเอียง...อีกแล้ว

อาจเป็นอีกครั้ง...ที่ความไม่เข้าใจทำให้แตกตื่น...

กับเรื่องนี้ รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ หัวหน้าภาควิชาธรณีวิทยา และหน่วยปฏิบัติการวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหวและธรณีแปรสัณฐาน ผืนแผ่นดินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความรู้ความเข้าใจผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” โดยระบุว่า... จากการสอบถามและพูดคุยกับนักธรณีวิทยาชาวญี่ปุ่น พบว่าข้อมูลการเคลื่อนที่ของเกาะฮอนชูอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร โดยการเคลื่อนตัวของพื้นที่ดังกล่าวนี้เป็นผลมาจากการที่รอยเลื่อนของเปลือกโลกเกิดการกระทบและเสียดสีกันมาเป็นระยะเวลานาน และได้ปลดปล่อยแรงเครียดที่ถูกสะสมไว้ออกมา ในรูปของ “พลังงานคลื่นแผ่นดินไหว” โดยมีจุดที่น่าสนใจคือ...

การเกิด “แผ่นดินไหว” ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากการปลดปล่อยพลังงานคลื่นแผ่นดินไหวออกมาจากรอยแตกหรือรอยปริของเปลือกโลกมากกว่า 1 แนว จึงทำให้เกิดความรุนแรงมาก !! ซึ่งการที่เกิดจากรอยแตกหรือรอยปริมากกว่า 1 แนวนี้ ก็ส่งผลให้เกิด “อาฟเตอร์ช็อก” ติดตามมาอีกหลายครั้ง...

รศ.ดร.ปัญญา บอกอีกว่า... เมื่อเทียบกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี 2547 บริเวณเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เหตุการณ์ครั้งนั้นเกิดจากปรากฏการณ์สำคัญ 2 ชนิด คือ รอยเลื่อนเปลือกโลกเกิดการยกตัวขึ้น และกดตัวลงพร้อมกัน แต่สำหรับเหตุการณ์ แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นครั้งนี้ เกิดจากปรากฏการณ์สำคัญถึง 3 ชนิดพร้อมกันคือ 1. รอยเลื่อนหรือเปลือกโลกเกิดการยกตัวขึ้น 2. เกิดการกดตัวลง และ 3. เกิดการขยับออกหรือเคลื่อนที่ออกไปในแนวข้าง ในเวลารวดเร็ว อย่างไรก็ตาม แผ่นดินไหวที่เกิดที่ประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ จะไม่ส่งผลอย่างใดกับแผ่นดินบริเวณประเทศไทย เพราะญี่ปุ่นและไทยอยู่คนละแนวของรอยเลื่อน

ทั้งนี้ สำหรับประเด็น “แผ่นดินเคลื่อนตัว-แกนโลกเอียง” ทาง รศ.ดร.ปัญญา แจกแจงว่า... ตามปกติรอยเลื่อนแผ่นเปลือกโลก รวมถึงแกนโลก ก็มีการขยับตัวตามธรรมชาติอยู่ตลอดเวลาเป็นธรรมดาอยู่แล้ว โดยแผ่นเปลือกโลกจะมีอัตราการเคลื่อนตัวอยู่ที่ประมาณ 7-10 เซนติเมตรต่อปี ซึ่งผลจากแผ่นดินไหวในครั้งนี้ก็เพียงทำให้การเคลื่อนที่ดังกล่าวขยับเร็วขึ้นกว่าปกติ ส่วนกรณีแกนโลก ซึ่งหลายคนอาจจะวิตกจากกระแสร่ำลือ จากกระแสที่ว่าจะทำให้แกนโลกบิดเบี้ยว และส่งผลให้เกิดอันตรายในเร็ววันนี้ เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง

แผ่นดินไหว ที่ทำให้แผ่นดินหรือเกาะเคลื่อนจากพื้นที่เดิม อาจจะทำให้แผ่นดินแตกเป็นเสี่ยง ๆ หรือสูญเสียแผ่นดินเดิม กระแสนี้ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะการเคลื่อนตัวก็เป็นปรากฏการณ์ปกติอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่ทั้งแผ่น และไม่ได้มีผลรุนแรงจนทำให้แผ่นดินแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ส่วนแกนโลกบิดเบี้ยวนั้น ก็ มีความเป็นไปได้ แต่กว่าจะถึงจุดนั้นก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10,000-100,000 ปี

’ไม่อยากให้ตื่นตกใจและตื่นตูมจนเกินไป แต่อยากให้ตื่นตัวและตระหนัก รวมถึงให้ความสำคัญกับปรากฏการณ์ธรรมชาติเหล่านี้ เพื่อที่จะเตรียมตัว เตรียมพร้อม อย่างเข้าใจ“ …รศ.ดร.ปัญญา ระบุ

สรุปว่า ’แผ่นดินเคลื่อน-แกนโลกเอียง“ เป็นธรรมดาโลก ซึ่ง เกาะภูเก็ต หรือแม้แต่ทั้งประเทศไทย ก็เคยเคลื่อน หลังเกิดแผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย-เกิดสึนามิ ปลายปี 2547 ดังนั้น อย่ากลัวเกินไป...

กลัวว่าไทยด้อยมาตรฐานรับมือพิบัติภัย...ดีกว่า ??.
ขยับ! หลังธรณีเขย่า 'แผ่นดินเคลื่อน' โลกยิ่งเอียง น่ากลัว?
ที่มา สกู๊ปหน้า1เดลินิวส์