วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

'เป๊ก – ธัญญ่า' บ้านแตก!! ต้องเรียกตำรวจเคลียร์


หลังเหตุการณ์คลิปพลีชีพ “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล บินด่วนไปแอริโซนาเพื่อเคลียร์กับภรรยาสุดเลิฟ ธัญญาเรศ ต่อหน้าแม่ยายและแม่ตัวพร้อมสักขีพยาน ใครจะคิดว่า ความหวานชื่นจะจบลงในเวลาอันรวดเร็ว ชีวิตรักของครอบครัวนี้ถึงจุดวิกฤตอีกครั้ง หลังธัญญ่าเมาไวน์อย่างหนักและเอ่ยพาดพิงถึง “บุคคลที่ 3” ความชุลมุนบนโต๊ะอาหาร แม่ยายกรีดร้องเสียงหลงเมื่อเป๊กปรี่เข้าหาธัญญ่า จนต้องเรียกตำรวจมาช่วยเคลียร์!!
ฝ่ายชายหัวเสียลากกระเป๋าเดินทางบินกลับเมืองไทยทันที แนวโน้มชีวิตคู่ล่มสลายมีสูงหมดหนทางกู้คืนในเร็ววัน ด้าน “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช คู่กรณีต้นตอรักสามเส้าในครั้งนี้ตัดสินใจล่าสุด ไม่ไป “อินเดีย” ตามหมายเดิม แต่เดินทางไปประเทศในแถบยุโรป อาจจะเป็นอังกฤษ หรือ สวิตเซอร์แลนด์
ก่อนจะถึงวันนี้
“เจ” เจตริน วรรธนะสิน เป็นพ่อสื่อให้ “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล กับ “ธัญญ่า” ธัญญาเรศ รามณรงค์ได้พบรักและแต่งงาน ทั้งคู่จัดพิธีแต่งงานกัน ที่โบสถ์อัสสัมชัญ บางรักเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2548 เป๊กและธัญญ่ามีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ “ลียา” ซึ่งเกิดจากการอุ้มบุญโดยมิเชล ซึ่งเป็นพี่สาวของธัญญ่า ภายใต้ชีวิตสมรส เป๊ก ยังคงเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ สนุกสนานกับสาวๆในวงการบันเทิงโดยผ่านงานปาร์ตี้ต่างๆ ผู้หญิงในวงการบันเทิง ซึ่งเป็นเพื่อนพ้องน้องพี่ของธัญญ่าก็หมุนเวียนสลับเปลี่ยนมาเป็น “ของเล่นชั่วคราว” ให้กับ “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล แต่เขาไม่ได้สมัครใจรักใครเป็นตัวเป็นตน ชีวิตรักในช่วงแรก เมียรักสำคัญที่สุดยิ่งกว่าหญิงคนใด

จนเมื่อ “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูลและผองเพื่อนร่วมทุนกันทำหนังสือชื่อ RPM “สาวิกา ไชยเดช” นางเอกจากช่อง 7 สีถูกเชื้อเชิญให้มาเป็น “นางแบบปก” จากนั้น... ความสัมพันธ์ของ “เป๊ก” และ “พิ้งกี้” ก็เริ่มก่อตัวขึ้นเงียบๆ จนเริ่มเป็นข่าวจริงจังเมื่อเดือนเมษายนในปีนี้ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ชีวิตรักสามเส้าของทั้งคนสามคนก็กลายเป็น “มหากาพย์แห่งรัก” ท่ามกลางสมรภูมิของข่าวลือมากมาย และมากขึ้นตามลำดับ ที่สุดแล้ว ทั้ง “เป๊ก - ธัญญ่า - พิ้งกี้” เคยเคลียร์กันหลายครั้ง มีทั้งการเคลียร์แบบเผชิญหน้า รวมถึงการเคลียร์และสอบถามกันทางโทรศัพท์หลายครั้ง ต่างกรรมต่างวาระ จนกลายเป็นที่มาของ “คลิปเสียง” ที่ “ถูกปล่อย” !? หรือ “หลุด” จากการขายบีบี เครื่องนั้น เวลาต่อมา ผลกระทบที่เกิดจากคลิปเสียงชุดนี้ ทำให้ “เป๊ก” ต้องแจ้งความ และยืนยันว่า พิ้งกี้เป็นเพียง “อดีต” !? และจบไปนานแล้ว

ทว่า “อดีต” สำหรับ “เป๊ก” ยังคงแสดงให้สังคมประจักษ์ชัดว่า ยังคบและพูดคุยกันอยู่ !! แม้ในเหตุการณ์ดังกล่าวสรินยา ไชยเดช แม่ของพิ้งกี้ยืนยันว่า เป๊กได้โทร.มาแสดงความห่วงใย !? ณ ช่วงเกิดเหตุของคลิปเสียงดังกล่าว พิ้งกี้ยังทำงานอยู่อินเดีย และบินกลับมาร่วมงาน “เวสป้า แบงคอก ฮอลิเดย์” ที่ Color Frame Studio ตามที่รับปากไว้ก่อนหน้านี้ ในงานดังกล่าว พิ้งกี้ได้เปิดใจด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส บอกสื่อมวลชนว่า ตัดสินใจพักงานแสดงกับช่อง 3 โดยจะบินไปเรียนและทำงานต่อที่ประเทศอินเดีย ในงานดังกล่าว นอกจากพิ้งกี้จะมีท่าทีไม่สะทกสะท้านกับเรื่องดังกล่าว ยังพยายามโชว์แหวนวงที่ติดนิ้วข้างซ้ายอีกต่างหาก

เป๊ก - ธัญญ่า จบความหวานแค่ 8 วัน

ในเดือนนี้ … “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช ตัดสินใจบินไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ ทว่า ไม่ใช่ “อินเดีย” ตามที่เคยลั่นปากไว้ แต่ประเทศเป้าหมายของเธอในครั้งนี้อยู่ในแถบยุโรป และมีความเป็นไปได้ที่จะเป็น อังกฤษ หรือ สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศใดประเทศหนึ่ง

หลังเหตุการณ์ “คลิปเสียง” “เป๊ก” สัณชัยมีเวลา 2 เดือน ในการเคลียร์เรื่องราวทั้งหมด โดย “เป๊ก” สัณชัยตัดสินใจบินไปที่อเมริกา เนื่องจาก ธัญญ่า , ลียา , นุชนารถ เองตระกูล (แม่เป๊ก) , แจ็คเกอรีน (แม่ธัญญ่า) พักอยู่ที่มลรัฐแอริโซนา ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา

“เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล เดินทางจากเมืองไทย หวังและตั้งใจไปใช้ชีวิตที่อเมริกา 10 วัน เพื่อที่จะขอโทษเมียรักกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น หวังเต็มเปี่ยมที่จะเกลี่ยเรื่องไม่เข้าใจให้จบสิ้น เพื่อให้ครอบครัวและชีวิตรักราบรื่น อบอุ่นเหมือนเมื่อทั้งคู่แต่งงานกันใหม่ๆ เขาเดินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปลงเครื่องที่แอลเอ บินต่อไปที่ซานฟรานซิสโก และแอริโซนาตามลำดับ เพื่อพาธัญญ่าและลูกลียาไปท่องเที่ยวกันที่เมืองลาสเวกัส มลรัฐเนวาดา แล้วจึงขับรถยาวไปที่เลคทาโฮ มุ่งหวังที่จะเคลียร์เรื่องทั้งหมด เพื่อให้ชีวิตคู่กลับมาหวานชื่น พร้อมหน้าพ่อแม่ลูกเหมือนเดิม

ส่วนธัญญาเรศ เองตระกูล ตั้งใจที่จะกลับเมืองไทยในเดือนธันวาคม ตามกำหนดเดิมที่เคยบอกผ่านมายังสมเกียรติ คุณานิธิพงศ์ ผู้จัดการส่วนตัว

การพบหน้าและเคลียร์ทุกเรื่องราวครั้งนี้ ทำต่อหน้าของผู้ใหญ่และพยานร่วมที่ได้รับการเชื้อเชิญ การเดินทางไปอเมริกาของเป๊กในครั้งนี้ เป๊กได้ปูความสุขตามประสา “พ่อ - แม่ -ลูก” ให้เกิดขึ้นอีกครั้ง ทั้งเป๊ก, ธัญญ่า และลูกลียาพากันไปเที่ยวที่เมืองลาสเวกัส ความหวานชื่นในครั้งนี้ได้รับการบันทึกภาพและส่งให้กับเพื่อนๆของธัญญ่าที่อยู่เมืองไทยที่กำลังนั่งลุ้นกันตัวโก่ง ภาพที่เป๊กและธัญญ่ากำลังหยอกล้อกับลูกสาวอย่างมีความสุขนั้น ทำให้เพื่อนหลายคนเห็นอนาคตชีวิตรักของเป๊กและธัญญ่าว่าน่าจะมีแนวโน้มกลับมาสมานฉันท์ จูบปากกันอีกครั้ง ความเพียรพยายามของ “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูลในครั้งนี้คงจะไม่สูญเปล่า เพราะตลอดทั้ง 8 วันแรก เป๊กได้ทำให้ธัญญ่าใจอ่อน ยอมรับฟังเหตุและผลต่างๆ ที่สามีอธิบาย

บรรยากาศแห่งความสุขตลอดทั้ง 8 วันนี้ ธัญญ่าไม่เคยพบนับจากเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะที่มี “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช ผ่านเข้ามาในชีวิตรักของเธอกับเป๊ก ขณะที่บรรยากาศของความรักกำลังจะหวนคืนสู่ชีวิตครอบครัวอีกครั้ง จู่ๆก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน ทำให้ครอบครัวนี้อลเวงอีกครั้ง
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ 9 ได้ขยายความขัดแย้งมากขึ้นถึงขีดที่ยากแก่การเคลียร์ !! ซะแล้ว

“ชีวิตคู่” หกคะเมนตีลังกาอีกครั้ง
ความรักที่เกี่ยวข้องกับวาสนาและชะตากรรม ทำให้เขาและเธอมีปัญหากันอีกครั้ง ความสดชื่นที่ดำเนินมาตั้งแต่วันแรกที่ “เป๊ก” สัณชัย ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกากับลูกลียาและธัญญ่าก็หมดสิ้นลง การมาอเมริกาในครั้งนี้ เขาตั้งใจว่า จะเดินทางไปรับคุณแม่นุชนารถกลับมายังเมืองไทยพร้อมกัน โดยที่ธัญญ่ายังคงมีโครงการที่จะกลับเมืองไทยตามกำหนดเดิมในเดือนหน้า

ค่ำวันที่ 9 ซึ่งเป๊กมาอยู่ที่อเมริกา มีงานเลี้ยงส่ง “เป๊ก” บนโต๊ะอาหารมื้อค่ำนั้น นอกเหนือจาก เป๊ก, ธัญญ่า, ลียา, คุณแม่นุชนารถ (แม่ของเป๊ก) และ คุณแม่แจ็คเกอรีน (แม่ของธัญญ่า) รวมถึงกลุ่มเพื่อนๆของทั้ง 2 ฝ่ายที่ร่วมกันมาเป็นสักขีพยานกับความรักของคนคู่นี้

สื่อมวลชนท่านหนึ่งที่ได้รับเกียรติถูกเชื้อเชิญให้ไปร่วมโต๊ะอาหารคือ เกียงศักดิ์ สกุลชัย หรือ “ต้อย แอ็คเน่อร์” แห่งมายาแชนแนลและมายาออนไลน์

ขณะที่บรรยากาศแห่งความสนุกสนาน ชื่นมื่นดำเนินไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ จู่ๆ เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อธัญญ่าเริ่มเมาไวน์ จนไม่อาจเก็บ “เรื่องในใจ” ที่กักเก็บไว้ในส่วนลึก เธอเริ่มพูดถึงเรื่องผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง !!

“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ อย่าไปพาดพิงถึงคนอื่น” สัณชัย เองตระกูลกล่าวกับธัญญาเรศผู้เป็นเมีย
เนื่องจากมีแขกร่วมโต๊ะอาหารอยู่ด้วย ทำให้ “ เป๊ก” ต้องเตือนมิให้เอ่ยถึง “บุคคลที่ 3” การห้ามปราม แทนที่ธัญญ่าจะเชื่อ กลับทำให้ธัญญ่าคิดว่า เป๊กยังมีเยื่อใยกับ “อดีต” จนทั้งคู่เริ่มมีเสียงทะเลาะเบาะแว้งเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหาร “เป๊ก” สัณชัยปรี่เข้าไปหมายจะห้ามปรามในระยะประชิดตัว !! และก่อนที่เป๊กจะถึงตัวธัญญ่า เสียงหวีดร้องของคุณแม่แจ็คเกอรีนก็ดังขึ้น !!

การที่เป๊กปรี่เข้าไปห้ามปราม คุณแม่แจ็คเกอรีนเข้าใจว่า เป๊กจะเข้าไปทำร้ายลูกสาว ตามที่เป๊กเคยลั่นวาจาไว้ในคลิปเสียง !?

คิดและเข้าใจเช่นนี้ ความรักที่ทำท่าจะสมานกันได้เมื่อ 8 วันที่ผ่านมา ก็ถึงทางตัน จนเหมือนกับถูกต้อนเข้าสู่จุดแตกหัก จนยากที่จะปะติดปะต่อ เยียวยาแก้ไข คุณแม่แจ็คเกอรีนเป็นคนที่เสนอความเห็นให้เรียกตำรวจเข้ามายุติและไกล่เกลี่ยความขัดแย้งในครั้งนี้ !?

ขณะที่แขกรับเชิญที่มาร่วมเป็นองค์พยานถึงกับช็อกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แขกบางคนอดคิดไม่ได้ว่า ความรักสำหรับคนคู่นี้คงจะเดินทางมาถึงระยะสุดท้ายจนยากแก่การเยียวยาแล้ว เพราะความขัดแย้งนี้ทำให้มองหน้ากันได้ไม่สนิทใจ

“เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล หัวเสียกับเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมากที่ไม่อาจสมานฉันท์ชีวิตรักภายในครอบครัวตามที่ตั้งใจไว้ และบินกลับเมืองไทยทันที !!

เดือนธันวาคมตามกำหนดเดิมของธัญญ่าที่จะเดินทางกลับเมืองไทยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง และบางทีชีวิตของคู่นี้ … อาจจะต้องหยุดและดำเนินการบางอย่างเพื่อให้ชีวิตคู่ได้รับ “อิสรภาพ” ไม่ถูกจองจำจากข้อผูกมัดใดๆ ในเร็วๆนี้

พิ้งกี้บินไปยุโรป
กลางเดือนนี้ … “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช จะบินไปยังประเทศในแถบยุโรป แทนที่จะเป็นประเทศอินเดียที่เธอแพลนไว้แต่เดิม อาจจะเป็น “อังกฤษ “ หรือ “สวิตเซอร์แลนด์” ส่วนสายสัมพันธ์ด้านมิตรภาพนั้น “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล ยังพูดคุยและสนิทสนมกับ “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ความสนิทสนมนี้ อาจจะอยู่ในฐานะ “พี่ชาย - น้องสาว” !!? หรือจะเป็น “อดีตที่ลบไม่สิ้น” ก็ยากแก่การคาดเดา

ที่ผ่านมา “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช เจอคำกล่าวหาเรื่องมือที่ 3 เพราะไปเกี่ยวข้องกับครอบครัวและชีวิตรักของ “เป๊กและธัญญ่า” และการที่ฐานะของ “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูลที่ “โคตรรวย” ทำให้เธอถูกมองว่า เธอเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์และรางวัลสิเน่หามากมายของฝ่ายชาย ข้อกล่าวหาเหล่านี้ มีความพยายามที่จะ “แก้” ไม่ว่าจะผ่านรายการ “วู้ดดี้เกิดมาคุย - ภาคพิเศษ” และบทสัมภาษณ์ของนิตยสาร Who? ฉบับที่78 ประจำวันที่ 01 - 11 - 10 (1 พฤศจิกายน 2553) ที่กำลังวางแผงอยู่ในขณะนี้

ฟอกขาว “พิ้งกี้” ในมุม “พ่อ-แม่-ลูก”
ในนิตยสารดังกล่าว เราเห็นการปรากฏตัวของ “แซม” สมาน ไชยเดชในค่ำคืนของงาน “ เวสป้า แบงคอก ฮอลิเดย์” ที่ Color Frame Studio เขามาเพื่อช่วยพิ้งกี้อีกแรงด้วย “ กลัวว่าสองสาวจะรับมือไม่ไหว” !? งานนี้ สมาน ผู้เป็นพ่อมายืนยันที่จะเคียงข้างกับลูกและเมียในวันวิกฤต หน้าที่ส่วนใหญ่ในการบอกเล่าเรื่องราวทั้งหลายจึงเป็นหน้าที่ของสาวิกาและสรินยาซะเป็นส่วนใหญ่

สำหรับ “อ้อย” สรินยา ผู้เป็นแม่ของพิ้งกี้เท่านั้นอยากจะให้ลูกมีคู่ครองที่ดี

“ แม่อยากให้เขาเจอคนที่เขารัก เหมือนที่แม่รักเขา อยากให้มองลึกไปถึงจิตใจเขา เพราะเขาจิตใจดี ไม่ค่อยยุ่งกับใคร ให้เกียรติคน จะยากดีมีจนก็ไม่ว่า เพราะรวยแล้วไม่มีความสุขก็เยอะแยะ แต่... รวยได้ก้ดี (หัวเราะ) ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ต้องรักกัน รับสภาพและทนนิสัยซึ่งกันและกันได้ พิ้งกี้อาจจะตื่นสายหน่อยเพราะนอนดึก อาจจะต้องทำกับข้าวให้ด้วย (ยิ้มป เพราะเขาไม่ใช่แม่ศรีเรือน อย่าคาดหวังอย่างนั้น แต่เขาอาจจะทำอย่างอื่นให้ได้ อย่างล้างรถ ถูบ้าน

ซึ่งวันหนึ่งเราอยากให้มีคนมารักและดูแลเขาต่อ เพราะพ่อแม่ก็แก่แล้ว ไม่รู้จะตายเมื่อไร มีแต่คู่ครองเท่านั้นที่จะช่วยดูแลเขาได้”

มองพิ้งกี้ผ่านสายตาแม่
“เขาเป็นเด็กมีเสน่ห์ แต่ก็กวนประสาท เป็นของแปลกไง (ยิ้ม) คือสวยด้วย บ๊องด้วย โก๊ะด้วย จริงๆพิ้งกี้เป็นเด็กขี้อายมาก บางทีไปไหนมาไหนกับแม่ก็คอยหาเสาไว้หลบ ไปร้านไหนถ้าเขินๆ เกรงใจคนขายขึ้นมา ยอมซื้อเป็นหมื่นก็มี ตอนไปถ่ายหนังที่อินเดียก็ชอบซุกตัวหลบอยู่ข้างหลัง เขาเป็นคนแบบนั้น เคยแซวเหมือนกันว่า ถ้ามีแฟน สงสัยต้องเดินใกล้ๆกับแฟน (หัวเราะ)

ไปถ่ายละครก็ต้องหาห้องน้ำ หลบไปตั้งสติก่อน ขนาดทำงานมา 16 ปีแล้วยังต้องหลบไปดูก่อนว่าใครนั่งตรงไหน (หัวเราะ) ขี้อายมาก เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก ไม่มีใครรู้ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่”

นอกจากเรื่องขี้อายแล้ว แม่ - ลูกคู่นี้ ตัวแทบจะติดกันทั้งยามหลับ ยามตื่น และไปไหนต่อไหนด้วยกันเสมอ เหมือนจะอธิบายว่า ข่าวลือ !! ตรงข้ามกับ “ทุกเรื่องจริง” ทุกประการ …

“ตื่นเช้ามา...เอาอีกแล้ว (ถอนหายใจยาว) แต่ไม่ว่าจะอย่างไร แม่อยู่ข้างๆกี้ตลอดเวลา ตั้งแจต่ช้ากระทั่งเข้านอน กี้เลือกปรึกษาแม่เป็นคนแรก มีอะไรก็บอกแม่ทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นแม่รู้หมดทุกอย่างค่ะ” พิ้งกี้กล่าวอย่างนั้น

ฝ่ายแม่ยืนยันว่า
“ เราเป็นทั้งแม่และเพื่อน รู้อะไรก็ไม่ได้ดุด่าว่ากล่าว แต่จะชี้แจงเหตุผล พูดกันด้วยความเข้าใจมากกว่า”

สรินยา ไชยเดช แม่ของพิ้งกี้ บอกว่า ลูกสาวเป็นคนกตัญญู ทั้งคนในครอบครัวและในหมู่ญาติพี่น้อง ทุกวันนี้ที่มีกินมีใช้มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของลูกสาวทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้ทุนการศึกษาแก่หลานๆ ส่งเสียเลี้ยงดูคุณยาย ฯลฯ ญาติพี่น้องคนไหนเดือดร้อน เป็นต้องยื่นมือเข้าช่วยโดยไม่ลังเล

“เรารู้ระบบจัดการว่าจะสร้างสมอะไรไว้ให้เขา ทุกวันนี้พิ้งกี้มีบ้านในกรุงเทพฯ 3 หลัง เป็นสมบัติของเขาด้วยหยาดหงื่อของเขาเอง สร้างมา 3 ปีเพิ่งจะเสร็จ ทำบ้านสวนให้ยายอยู่ เป็นบ้านพักตากอากาศกลางป่าริมน้ำเงียบๆ มีแมวของเขา เป็นบ้านพักจริงๆ บางครั้งเขาก็ไปนอนกับยาย”

นอกจากการทำงานในฐานะนักแสดงแล้ว ยังร่วมหุ้นกับเพื่อนทำธุรกิจสถาบันความงาม “โนแอล บาย พิ้งกี้” ซึ่งเปิดขายไปแล้ว 5-6 แฟรนไชส์

นี่เป็นอีกมุมหนึ่ง … ของ “พิ้งกี้ “ สาวิกา ไชยเดช และครอบครัว อ่านแล้ว … ทุกอย่างอาจจะดูสวนทางกับเรื่องราวความเป็นจริงจากการเสพข่าวตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์