วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'

ไทยหมดลุ้น'เฟียสต้า ดีเซล'เซียนรถผิดหวัง เมื่อ “เฟียสต้า ดีเซล” แทบปิดโอกาสทำตลาดในไทย แม้ปัจจุบันโรงงานเอเอที จังหวัดระยอง จะผลิตเพื่อส่งออกควบคู่ไปกับตัวเบนซินอยู่แล้ว โดย “บิ๊กฟอร์ด” เผย “เฟียสต้า ดีเซล” มีแต่เกียร์ธรรมดา เชื่อว่าคนไทยไม่นิยม แถมรัฐบาลไม่เอื้อภาษีเหมือนรถยนต์เบนซิน หรือแก๊สโซฮอล์ อี20 ดังนั้นถ้าขายจริงต้องโดนภาษีสรรพสามิตเต็มที่ 30% ประกอบกับต้นทุนผลิตเครื่องยนต์ดีเซลแพง จึงไม่สามารถทำราคาให้น่าสนใจ หรือมีโอกาสทะลุ 8 แสนบาท งานนี้เลยต้องพับแผน มุ่งทำตลาดเบนซิน 1.4 และ 1.6 เกียร์ดูอัลคลัตซ์ พร้อมลุยทั่วประเทศ 2 กันยายนนี้
เลิกนับวันรอ พ.ศ.ที่คิดถึง เพราะ 2 กันยายนนี้ “ฟอร์ด เฟียสต้า” มีกำหนดเปิดตัวพร้อมลงโชว์รูมทั่วประเทศอย่างเป็นทางการ หลังจากทยอยโหมกระแสสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภค และเปิดเผยข้อมูล-ราคาขาย ก่อนหน้าร่วมเดือน เรียกว่าฟอร์ดพยายามทำทุกทางเพื่อยื้อใจลูกค้า ไม่ให้ด่วนลงเอยไปกับบรรดาแบรนด์ญี่ปุ่นเจ้าตลาด รวมถึงเพื่อนซี้โรงคลอดเดียวกันอย่างมาสด้า 2 ที่กำลังโกยยอดขายเป็นว่าเล่น
“ฟอร์ด เฟียสต้า” พยายามชูจุดเด่นทางเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร Ti-VCT เกียร์ดูอัลคลัตซ์ 6 สปีด ที่สำคัญอัดออปชันความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเพียบ แต่จ่ายราคาเทียบเท่าคู่แข่ง ขณะเดียวกัน ยังสอดแทรกเครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร เกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ 4 สปีด ราคาเพียง 5.29-5.74 แสนบาท หวังเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าที่ต้องการความคุ้มค่า
...แม้ฟอร์ดจะพยายามปิดช่องว่างโปรดักต์ โดยนำเสนอทางเลือกแตกต่าง หลากหลายราคา แต่ยังมีคำถามไม่น้อยว่าทำไม ฟอร์ด ประเทศไทย ถึงไม่นำเครื่องยนต์ดีเซล ที่ขึ้นชื่อเรื่องสมรรถนะพร้อมการประหยัดน้ำมัน มาประทับในเฟียสต้าและขายควบคู่ไปกับเครื่องยนต์เบนซิน เพราะจริงๆ โรงงาน ออโต้อัลลายแอนซ์ (เอเอที) จังหวัดระยองก็ทำการผลิต “เฟียสต้า ดีเซล” เพื่อส่งออกอยู่แล้ว
ประเด็นนี้ “สาโรช เกียรติเฟื่องฟู” รองประธานอาวุโส ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า ฟอร์ดไม่ได้มองข้ามความต้องการของลูกค้า เพราะจริงๆแล้ว ฟอร์ดถือเป็นผู้นำด้านพลังงานทางเลือก และที่ผ่านมาได้นำเครื่องยนต์ดีเซลวางในเก๋งรุ่น “โฟกัส” พร้อมขายราคาล้านต้นๆ จนได้การตอบรับเป็นอย่างดี
ในส่วนของเฟียสต้า รุ่นวางเครื่องยนต์ดีเซลที่ทำตลาดในยุโรป ปัจจุบันถูกพัฒนาให้ใช้ระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา ดังนั้นถ้านำสเปกนี้มาทำตลาดในประเทศไทย อาจไม่ได้การตอบรับที่ดี สาเหตุเพราะผู้บริโภคไทยส่วนใหญ่นิยมเกียร์อัตโนมัติ
“แม้จะมีการผลิต เฟียสต้า เครื่องยนต์ดีเซล ที่โรงงานเอเอที เพื่อส่งออกไปยัง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้ ซึ่งจะเริ่มส่งออกตั้งแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป แต่ถ้าถามโอกาสที่จะนำ เฟียสต้า ดีเซล เกียร์ธรรมดา มาทำตลาดในประเทศไทย ต้องยอมรับว่าขายลำบาก” สาโรช กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม หากจะให้ ฟอร์ดบริษัทแม่ พัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล กับเกียร์อัตโนมัติ เพื่อรองรับตลาดไทยคงเป็นเรื่องยาก เพราะปริมาณการขายน้อย และต้องศึกษาปัจจัยหลายอย่าง ขณะเดียวกันถ้าจะใช้เกียร์เพาเวอร์ชิฟท์ (ดูอัลคลัตซ์) ก็จะทำให้ราคารถสูงขึ้นอีกมาก
นอกจากนี้ด้วยนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนพลังงานทางเลือก โดยเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน รองรับแก๊สโซฮอล์ อี20จะได้ส่วนลดภาษีสรรพสามิต อีก5% กล่าวคือ เฟียสต้า เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร อี20 รุ่นที่ขายในปัจจุบันเสียภาษีสรรพสามิตหน้าโรงงาน25% แต่ถ้าวางเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร จะไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จึงต้องเสียภาษีเต็มๆ 30%
“ด้วยโครงสร้างการเก็บภาษีที่ซับซ้อน เมื่อบวกกับต้นทุนผลิตเครื่องยนต์ดีเซลที่สูงกว่าเบนซินอยู่แล้ว อาจทำให้ราคาขาย เฟียสต้า ดีเซล พุ่งไปถึง 8 แสนบาท ที่สำคัญยังเป็นเกียร์ธรรมดา จึงเชื่อว่าไม่น่าดึงดูดใจลูกค้าชาวไทยนัก” สาโรช กล่าวปิดท้าย
สำหรับ “เฟียสต้า ดีเซล” ที่ผลิต ณ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (เอเอที) จังหวัดระยอง โมเดลส่งออกไป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้ เป็นตัวถังแฮตซ์แบ็ก 5 ประตู (รุ่น 3 ประตู นำเข้ามาจากยุโรป) วางเครื่องยนต์ดีเซล Duratorq ขนาด1.6 ลิตรTDCi SOHC 4 สูบ 90 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 212 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์