วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แรงแถมประหยัดแบบสุดโก้ย ฟอร์ดโฟกัส TDCi

แรงแถมประหยัดแบบสุดโก้ย ฟอร์ดโฟกัส TDCi คงไม่มีรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็กต์ยี่ห้อใดที่ใส่เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลออกมาขายในเมืองไทยช่วงนี้ นอกจากฟอร์ด ประเทศไทย มันคือ โฟกัส TDCi ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 1997 ซีซี. 136 แรงม้า และแรงบิดอีก 340 นิวตันเมตร ไม่น้อยเลยทีเดียวจำหน่ายในราคา 1,149,000 บาท

อย่าพึ่งไปสนใจว่า ฟอร์ดโฟกัสในต่างประเทศโดยเฉพาะที่ยุโรปกำลังเข้าสู่ช่วงการปรับโฉมครั้งใหม่ เพราะถึงอย่างไร แฟนๆ ฟอร์ดต้องรอไปอีกปีเศษๆ ถึงจะได้ยลโฉมโฟกัสโมเดลเชนจ์ในเมืองไทย เพราะฉะนั้นคนที่ไม่อยากจะรอกันนานขนาดนั้นโฟกัส TDCi น่าจะตอบสนองได้ดีมากเช่นกัน

รูปร่างหน้าตาของมัน ไม่แตกต่างจากรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน กระจังหน้าขนาดใหญ่ แสดงให้เห็นว่ามันเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์เมื่อไม่นานมานี้ ฉะนั้นความทันสมัยของหน้าตามีอยู่พอสมควร ภายในก็เช่นกันมันฉายภาพสไตล์รถยนต์ยุโรปได้ชัดเจน ผ่านคอนโซลหน้า และแผงควบคุมต่างๆ

แต่ที่เขียนถึงทั้งหมดนี้ไม่ใช่สาระสำคัญเลย เพราะรถยนต์ขนาดคอมแพ็กต์ของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ก็ออกแบบได้สวยงาม มีสไตล์แตกต่างตามดีเอ็นเอ ของแต่ละยี่ห้อ สิ่งที่ทำให้มันเป็นโฟกัสที่น่าสนใจและแตกต่างคือเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ 2.0 ลิตร 136 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุดอีก 340 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบต่ำ 2,000-4,000 รอบต่อนาที อย่างที่เกริ่นไว้ต่างหาก

ลองนึกภาพการใช้งานรถปิกอัพที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลขนาด 2.5 ลิตรจะเป็นยี่ห้อใดก็ได้ ขับไปโน้นมานี้ สิ่งที่รับรู้คือ ความประหยัด และสมรรถนะของอัตราเร่งจากแรงบิดมหาศาล ไม่ต้องพูดถึงแรงม้าเพราะเดี๋ยวนี้ปิกอัพส่วนใหญ่ก็ต้อง 130-140 แรงม้าขึ้นไปทั้งนี้

แล้วถ้าเป็นเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลที่ว่านี้ มาใส่ในรถเก๋งขนาดคอมแพ็กต์อย่างโฟกัส ถ้าเทียบกับรถญี่ปุ่นก็อัสติส ซีวิค และมาสด้า 3 ประมาณนั้น น้ำหนักตัวรถน้อยกว่าปิกอัพพอสมควร มีสรีระลู่ลมมากกว่า อยากจะบอกว่าแรงม้าและแรงบิด ช่วยส่งให้โฟกัสคันนี้ทะยานไปข้างหน้าได้เร้าใจไม่เหมือนใคร แต่ในอัตราการบริโภคน้ำมันที่ต่ำกว่ารถเครื่องยนต์เบนซินเยอะทีเดียว

แม้ดีเซลของโฟกัสจะมีขนาด 2.0 ลิตร แต่สำหรับผมมันเหลือเฟือเลยหละ เก๋งหรูๆ อย่างบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ส์ 3 หรือ 5 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล ก็มีขนาดเท่าๆ กันคือ 2.0 ลิตร ไม่ต้องอธิบายว่ามันแรงแค่ไหน โดยเฉพาะถ้าคุณเห็นรถที่มีรหัส “d” วิ่งอยู่ข้างหน้า

TDCi ของฟอร์ด โฟกัสก็เช่นกัน มันแรงได้ใจขาซิ่งแน่นอน ผมมีโอกาสทดสอบสมรรถนะโฟกัสตัวนี้พอสมควร ขับทั้งในกรุงเทพฯ และทางไกลๆ ถึงเพชรบูรณ์ ไม่มีอะไรเป็นข้อจำกัดของรถยนต์รุ่นนี้ถ้ามันวิ่งอยู่บนถนน จะขึ้นเขาหรือติดแหง๊กอยู่กลางเมือง มันตอบโจทย์ได้ดีเกือบทุกข้อ

ที่สำคัญคือ มันมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ เทคโนโลยีที่เรียกว่า พาวเวอร์ชิฟ เป็นเกียร์ที่ให้ความนุ่มนวลในการเปลี่นเกียร์สูง บอกได้เลยว่า คุณแทบจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นในแต่ละครั้ง ใกล้เคียงกับเกียร์ CVT แต่ฟอร์ด การันตีว่า เทคโนโลยีตัวนี้นอกจากนุ่มนวลแล้ว มันทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่า เพราะมันสูญเสียกำลังช่วงเปลี่ยนเกียร์น้อยมาก อันที่จริงผมไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องนี้สักเท่าไร แต่มันก็ทำให้ประหลาดใจอยู่เหมือนกันในความนุ่มนวลของมัน และที่สำคัญรถขนาดคอมแพ็กต์ แต่ติดตั้งชุดเกียร์พาวเวอร์ชิฟมาให้ เพราะเกียร์ตัวนี้นอกจากโฟกัส TDCi ตัวนี้แล้วก็มีแค่วอลโว่ จากสวีเดนเท่านั้นที่ติดตั้งมาให้

จะว่าไปแล้ว โฟกัส TDCi เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเด่นในทุกด้าน มันแตกต่างจากรถยนต์เซ็กเมนท์เดียวกันอย่างสิ้นเชิง สมรรนะอันสุดยอดของเครื่องยนต์ดีเซล ทั้งความแรง ความประหยัด ระบบเกียร์รุ่นใหม่ อุปกรณ์และออฟชั่น ไม่แตกต่างจากรถยนต์ญี่ปุ่น บางอย่างดีกว่าด้วยซ้ำ คิดอยู่ในใจว่าถ้าติดโลโก้โตโยต้า หรือฮอนด้าอาจผลิตไม่ทันขายก็เป็นได้

อย่างไรก็ตามคงไม่เป็นไร เพราะปัจจุบันฟอร์ด ประเทศไทยก็ประเทศแผนธุรกิจที่ดูจริงจัง กับการรุกตลาดรอบใหม่ ที่แสดงให้เห็นเป็นรูปธรรมคือการเตรียมส่ง เฟียสต้า รถยนต์ขนาดซับคอมแพ็กต์มาสู้กับคู่แข่งในตลาด แถมด้วยการขยายดีลเลอร์ตัวแทนจำหน่ายให้ได้ 100 สาขา

ถ้าเรื่องความมั่นใจในแบรนด์ และเครือข่ายโชว์รูมศูนย์บริการสอบผ่าน ผมว่าเจ้าโฟกัส TDCi น่าจะเป็นอาวุธหนักที่หลายค่ายต้องยำเกรง เพราะมันแรง และประหยัดในระดับสุดโก้ยเลยหละ

ที่มา http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9530000066686