สปอร์ต มาสด้า 2 สปอร์ตซีดานใหม่ อะไรคือความแตกต่างระหว่างมาสด้า 2 แฮชท์แบ็ค 5 ประตู กับมาสด้า 2 ซีดานใหม่ นอกจากส่วนท้ายที่ยื่นออกมา ผมนึกอยู่ในใจก่อนที่จะขึ้นไปนั่งประจำที่นั่งคนขับ ในกิจกรรมทดสอบสมรรถนะรถยนต์รุ่นใหม่ของมาสด้าเซลส์ ประเทศไทยคันนี้ ณ ดินแดนแห่งการท่องเที่ยวของเมืองใต้ เกาะภูเก็ต
ดูจากสเป็คเครื่องยนต์แล้วมันคือ ตัวเดียวกัน 1.5 ลิตร MZR 103 แรงม้า แรงบิด 135 นิวตันเมตร ช่วงล่างด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโครง ด้านหลังเป็นกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโครง พวงมาลัยไฟฟ้าแร็คแอนด์พีเนียน เพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทุกอย่างเหมือนกัน
ผมยังไม่ลืมความรู้สึกตอนอยู่หลังพวงมาลัยมาสด้า 2 รุ่นแฮชท์แบ็คที่เชียงใหม่ เมื่อปลายปีที่แล้ว มันให้ความสนุก และมั่นใจ แต่ส่วนหนึ่งเพราะท้ายมันสั้นกว่าเจ้าซีดานตัวใหม่ ที่ภูเก็ตผมกับเพื่อนๆ สื่อหลายแห่งเดินทางกันเป็นขบวนเกือบ 20 คัน มาสด้า 2 ซีดานแต่ละคันทั้งเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ฝ่าการจราจรกลางเมืองช่วงสายๆ กันอย่างคล่องตัว ถนนเล็กๆ ซอยแคบๆ ที่ถูกวางให้เป็นจุดทดสอบ ไม่ใช่ปัญหาเลย พวงมาลัยแม่นยำในสไตล์มาสด้าช่วยได้เยอะทีเดียว
แต่จุดหมายของการเดินทางวันนี้ค่อนข้างไกลทีเดียวไม่ได้ขับวนไปมาในภูเก็ต พวกเรามุ่งหน้าขึ้นเหนือ ไปอีกเกือบ 200 กิโลเมตร ปลายทางอยู่ที่จังหวัดกระบี่ ถนนหลวงเส้นทางเข้าออกเกาะ โค้งไปโค้งมา ขึ้น และลงเขา ยังกับงูเลื้อย อาจเป็นอุปสรรคในการใช้ความเร็วของรถบางคัน บางรุ่น แต่กับเจ้ามาสด้า 2 ซีดาน รุ่นเกียร์อัตโนมัติที่ผมขับทดสอบ มันเป็นเรื่องสบายๆ 70-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจอโค้งข้างหน้าก็แค่หมุนพวงมาลัยไปตามทางก็เท่านั้น
อันที่จริงสมรรถนะของมันอาจสูงกว่านั้น แต่ปรกติผมไม่ใช่เป็นคนขับรถเร็วนัก คิดว่า แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับรถซับคอมแพ็กต์ ซึ่งบางรุ่น ช่วงล่างนุ่มมากๆ แค่นี้ก็เสียวแล้ว และถ้าเทียบกับรุ่นแฮชท์แบ็คแล้วถ้าไม่บรรทุกสัมภาระท้ายรถมากนัก ความแตกต่างในการควบคุมต่างกันนิดหน่อยเท่านั้น รุ่นซีดานจะให้ตัวมากกว่า แต่ยืนยันครับว่าถ้าไม่บรรทุกสัมภาระด้านหลังมากนัก มันต่างกันไม่มากจริงๆ
ช่วงทางตรงๆ ในกระบี่ หลายคันเริ่มดึง 103 แรงม้ามาใช้กันอย่างเต็มเหนี่ยว เข็มวัดความเร็วของผมขยับขึ้นเรื่อยๆ ผ่าน 150 ก็แล้วยังไม่มีท่าทีจะหยุด ผมเลยตัดสินใจถอนเท้าจากคันเร่ง เพราะดูแล้วว่ามันคงไม่เหมาะถ้ารถซับคอมแพ็กต์ทั่วๆไปจะวิ่งกันเร็วมากๆ เครื่องยนต์อาจพาไปได้ แต่ผมมองในเรื่ององค์ประกอบหลายๆ โดยเฉพาะความปลอดภัย
ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร ซึ่งรวมช่วงทดสอบพิเศษ 3.5 กิโลเมตร ขับขึ้นเขาไปยังจุดชมวิว เพื่อรีดสมรรถนะในแบบสปอร์ต พอจะทำให้ผมตัดสินใจได้ว่า มาสด้า 2 ซีดานใหม่ ยังให้อารมย์สปอร์ตไม่น้อยไปกว่ารุ่น แฮชท์แบ็คสักเท่าไร่ ข้อดีของมันคือ ผมได้พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่พอจะอัดถุงกอล์ฟสัก 4 ใบได้ หรือกระเป๋าเดินทางใหญ่ๆ อีก 3-4 ใบได้สบายๆ และราคาของทั้ง ซีดาน และแฮชท์แบ็ค ก็ไม่ต่างกันเลย เริ่มต้นรุ่นเกียร์ธรรมดา 535,000 บาท เกียร์อัตโนมัติเริ่มต้น 564,000 บาท เละถ้าอยากได้ตัวท้อปครบเซ็ทอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ระบบความปลอดภัยก็ 675,000 บาท
อีกทั้งมาสด้า เซลส์ประเทศไทย ก็วางคอมเซปต์และตำแหน่งผลิตภัณฑ์ผ่านหนังโฆษณา ทั้ง 2 เรื่องที่มีเป้ วงเสลอ เป็นพรีเซ็นเตอร์ได้อย่างชัดเจน วัยรุ่นเด็กแนวที่ชอบความเร้าใจก็ดูจะเข้าทีกับแฮชท์แบ็คมากกว่าถ้าต้องการความภูมิฐานในแบบรถเก๋ง ซีดานคือสิ่งที่ตอบสนองได้ดีที่สุด แต่ถึงอย่างไรจะ 5 ประตู หรือ 4 ประตูมันก็คือ มาสด้า 2 สปอร์ตรุ่นเล็กของ สปอร์ตซูม ซูมอยู่ดี
ที่มาโดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์