สถานีโทรทัศน์ KCNA ของเกาหลีเหนือ ประกาศการถึงแก่อสัญกรรมของผู้นำ คิม จอง อิล วันนี้(19) พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามอบความจงรักภักดีต่อ คิม จอง อุน บุตรชายคนเล็กของผู้นำ คิม
เอเอฟพี - สถานีโทรทัศน์แห่งชาติเกาหลีเหนือประกาศการถึงแก่อสัญกรรมของผู้นำ คิม จอง อิล วันนี้(19) ซึ่งทำให้สถานการณ์ความมั่นคงในดินแดนโสมแดงตกอยู่ในความไม่แน่นอนอีกครั้ง ขณะที่อำนาจปกครองสูงสุดจะถูกถ่ายโอนสู่ผู้นำรุ่นที่ 3
เคเอ็นซีเอ เรียกร้องให้ประชาชนเกาหลีเหนือมอบความจงรักภักดีต่อ คิม จอง อุน บุตรชายคนเล็กของ คิม ซึ่งอยู่ในวัย 20 ปลายๆ และถูกยกให้เป็นทายาททางการเมืองของผู้นำเกาหลีเหนือมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
“สมาชิกพรรคทุกฝ่าย, ทหาร และประชาชน ควรปฏิบัติตามการนำของ คิม จอง อุน ด้วยความศรัทธา และจงปกป้อง และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์, กองทัพ และปวงชน” ผู้ประกาศข่าวของ เคซีเอ็นเอ เรียกร้องทั้งน้ำตา
ผู้นำ คิม ถึงแก่อสัญกรรม “ด้วยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ร่วมกับอาการหัวใจวาย” โดยมีการชันสูตรพลิกศพ เมื่อวานนี้(18) เคซีเอ็นเอ ระบุ
คิม จอง อิล เคยป่วยด้วยโรคเส้นเลือดสมองตีบเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2008 ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวแขนและขาได้ตามปกติอีกต่อไป
พิธีศพของผู้นำ คิม จะถูกจัดขึ้นที่กรุงเปียงยางในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ โดยไม่มีการเชิญผู้แทนต่างชาติเข้าร่วม ขณะที่รัฐบาลประกาศช่วงเวลาไว้ทุกข์แก่ผู้นำ คิม ตั้งแต่วันที่ 17-29 ธันวาคม เคซีเอ็นเอ รายงาน
รัฐบาลเกาหลีใต้เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ และประกาศให้กองทัพเฝ้าระวังสถานการณ์เป็นพิเศษทันทีที่สื่อเกาหลีเหนือเผยการถึงแก่อสัญกรรมของผู้นำ คิม ส่วนประธานาธิบดี ลี เมียงบัค ก็ยกเลิกหมายกำหนดการทำงานทั้งหมด
ประธานเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ ระบุว่า กองทัพเพิ่มการเฝ้าระวังบริเวณแนวชายแดนร่วมกับทหารสหรัฐฯที่ประจำการอยู่ในประเทศ ทว่ายังไม่พบสัญญาณผิดปกติใดๆ
สงครามเกาหลีที่ยุติลงด้วยสนธิสัญญาหยุดยิงในปี 1953 ทำให้ในทางเทคนิคแล้วเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยังถือว่าอยู่ระหว่างสงคราม
แถลงการณ์จากคณะกรรมการจัดพิธีศพซึ่งมี คิม จอง อุน เป็นประธาน ระบุว่า ร่างของผู้นำ คิม จะถูกนำไปเก็บรักษาไว้ที่ทำเนียบคัมคูซาน (Kumkusan Palace) ซึ่งเป็นสถานที่เก็บศพอดีตประธานาธิบดี คิม อิลซุง โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้าทำความเคารพศพผู้นำ คิม ได้ระหว่างวันที่ 20-27 ธันวาคม
หลังผ่านพ้นพิธีศพ ก็จะมีพิธีไว้อาลัยในวันที่ 29 ธันวาคม โดยมีการยิงสลุตและยืนสงบเป็นเวลานิ่ง 3 นาที ส่วนรถไฟและเรือก็จะเปิดหวูดเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้นำ คิม ด้วย
คิม จอง อิล ดำรงตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือต่อจากประธานาธิบดี คิม อิล ซุง ในปี 1994 ต่อมาในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษที่ 1990 ก็เกิดภัยแล้งที่คร่าชีวิตชาวโสมแดงไปนับแสนคน ภาวะขาดแคลนอาหารที่ไม่ได้รับการแก้ไขทำให้องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ประเมินว่า มีเด็กเกาหลีเหนือถึง 1 ใน 3 ที่อยู่ในภาวะทุพโภชนาการ
กระนั้นก็ดี ผู้นำ คิม ยังคงสามารถสรรหาทรัพยากรมาพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และทำการทดสอบอาวุธระหว่างปี 2006-2009
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์