นิตยสารไทม์ได้เผยแพร่บทความวันที่ 5 สิงหาคม เรื่อง 12 ผู้นำหญิงโลก ที่เขียนโดยวิลเลียม ลี อดัมส์
โดยยกให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงไทยเป็น 1 ในจำนวนดังกล่าว โดยกล่าวว่า คุณสมบัติเกี่ยวกับการเมืองของน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีเพียงแค่การเป็นน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเท่านั้น มันไม่ใช่ข้อกล่าวหาที่รุนแรงเกินเหตุ เพราะว่า
น.ส.ยิ่งลักษณ์จบการศึกษด้านการบริหารที่เคนตั๊กกี้ สเตต ยูนิเวอร์ซิตี้ สหรัฐ และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทที่ พ.ต.ท.ทักษิณก่อตั้งขึ้น แต่วันที่ 17 พฤษภาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ก้าวขึ้นมาโดดเด่นในระดับชาติ หลังจากพรรคเพื่อไทยเลือกเป็นผู้นำพรรคและสองสัปดาห์ต่อมา วันที่ 3 กรกฎาคม พรรคเพื่อไทยของน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับเลือกตั้ง ส.ส. 265 คน จากทั้งหมด 500 คน และเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ได้รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี
ไทม์ระบุด้วยว่า นอกเหนือจากที่จะต้องเอาชนะเสียงวิจารณ์ว่าพี่ชายคือผู้อยู่เบื้องหลังในการบริหารประเทศแล้ว
น.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงเอาไว้ให้ได้ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและแจกแท็บเล็ตพีซีให้เด็กนักเรียน โดยไม่ทำลายเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งต้องหาทางแก้ไขความสัมพันธ์ของไทยกับกัมพูชารวมไปถึงการสร้างความปรองดองระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงกับเสื้อเหลือง
ส่วนผู้นำหญิงโลกอีก 11 คน ประกอบด้วย อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี, คริสตินา เฟอร์นันเดซ เดอ เคิร์ชเนอร์ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา, ดิลมา รูสเซฟฟ์ ประธานาธิบดีบราซิล, จูเลีย กิลลาร์ด นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย, เอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีพ ประธานาธิบดีไลบีเรีย
ชีค ฮาสินา วาเจด นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ, โจฮันนา ซิเกอร์ดาร์ดอตตีร์ นายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์, ลอรา ชินชิลลา นายกรัฐมนตรีคอสตาริกา, ตาร์ยา ฮาโลเนน นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์, ดาเลีย กริโบสเกียต นายกรัฐมนตรีลิธัวเนีย, กัมลา เปอร์ซาด บิสเซสซาร์ นายกรัฐมนตรีตรินิแดด แอนด์ โตเบโก
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน