ทหารส่งมอบรถชนหมอมุกปางตายให้ตำรวจแล้ว เผย รถคล้ายกันแต่ไม่เหมือนหลายจุด โดยเฉพาะจุดที่ปัดน้ำฝนหัก เหมือนทำสีใหม่ และแผ่นแปะกระจกมีไม่เท่ากัน
ที่สน.พญาไท เวลา 09.00 น. วันนี้ ( 20 มิ.ย.) พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา อดีตอาจารย์ภาควิชาจุลชีววิทยา รพ.ศิริราช มารดาพ.ต.แพทย์หญิง หทัยพร หรือ หมอมุก อิ่มวิทยา พร้อมด้วยเพื่อนของหมอมุก เข้าพบ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รองผกก.สส.สน.พญาไท ที่ห้องประชุมชั้น 2 โดยมารดาของหมอมุกได้นำภาพถ่ายบุตรสาวขณะที่นอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู มอบให้พนักงานสอบสวนก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำไปสอบปากคำเพิ่มเติมถึงรูปพรรณของรถและผู้ก่อเหตุ
พญ.พรรณกร เปิดเผยว่า มาให้ปากคำเพิ่มเติมและมาติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ อยากขอความเป็นธรรมกับตำรวจ ให้คนที่ก่อเหตุออกมาสู้กันอย่างลูกผู้ชาย พ่อก็เป็นทหารเหมือนกัน เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมาตนและหมอมุกเดินทางกลับจากการไปนมัสการหลวงพ่อที่รพ.วิชัยยุทธ เมื่อมาถึงที่บ้านพักบริเวณเสารสคลีนิค เลขที่ 45/12 ถ.เศรษฐศิริ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ประมาณ 21.00 น.หมอมุกซึ่งขับขี่รถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีบรอน์ทอง ทะเบียน ษต 4045 กรุงเทพ พบรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน รุ่นซันนี่ สีบรอน์ทอง ทะเบียน วค1355 กรุงเทพ จอดขวางหน้าบ้านจึงจดทะเบียนรถไปให้ร้านอาหารสามเสนวิลล่า ที่จะให้ลูกค้าที่มาใช้บริการจอดรถริมถนน
“หลังจากนั้นหมอมุกก็จอดรถดึงเบรคมือและเข้าห้องน้ำกระทั่งคนขับรถคันที่จอดขวางมาเลื่อนรถ ชายลักษณะคล้ายนายทหารได้กลับรถไปจอดรถที่ฝั่งตรงข้ามริมทางรถไฟ ถนนกำแพงเพชรตัดถนนเศรษฐศิริ ชายในรถมองกลับมาที่หมอมุก ทางหมอมุกบอกแม่อย่างสงสัยว่าทำไมรถคันดังกล่าวไปจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ขณะที่หมอมุกเดินไปเพื่อเตรียมจะถอยเข้าบ้าน ได้ยินเสียงบีบแตรดังลั่นก่อนที่จะเห็นรถคันดังกล่าวกลับรถมาพุ่งชนลูกสาวจนลอยไปไกลกว่า 30 เมตรต่อหน้าต่อตา ตนวิ่งเข้าไปดูมีพยานเก็บที่ปัดน้ำฝนของรถคันก่อเหตุที่ติดอยู่กับร่างของหมอมุกไว้เป็นหลักฐาน เรื่องนี้ตนว่าคนขับจงใจกระทำและจะต้องมีคนคุ้มครองหรือเป็นคนมีสี ถึงกล้าทำผู้หญิงได้ถึงขนาดนี้ จุดเกิดเหตุหน้าบ้านตนเป็นจุดขาวแดงห้ามจอดแต่ก็จอดกันเป็นประจำอยู่ สำหรับอาการของหมอมุกตอนนี้ยังเบาใจไม่ได้ ก็ได้เพื่อนคอยดูแลกัน แม่ยังมีความหวังคงมีปาฏิหาริย์ให้ลูกฟื้นได้ ตอนนี้กังวลเรื่องจะถูกมุ่งปองร้าย” พญ.พรรณกร กล่าว
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีว่าได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วพนักงานสอบสวนบอกว่ารับคดีไว้แล้ว พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือแจ้งไปยังต้นสังกัดตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา และทางต้นสังกัดแจ้งว่าจะนำรถมาให้ตรวจสอบ และตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการยกรถคันดังกล่าวมาไว้ที่โรงพักแล้ว ส่วนเรื่องการดำเนินคดีทางตำรวจให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนที่มองว่าทำงานตำรวจทำงานล่าช้า ขอยืนยันว่าปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการกฎหมายที่ล่าช้าเพราะขั้นตอนทางเอกสารในทางราชการ
ต่อมาเวลา 13.30 น.พล.ต.พิสุทธิ์ เปาอินทร์ รองปลัดบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำรถนิสสัน ซันนี่นีโอ สีบรอน์ทอง ทะเบียน วค 1355 กทม.มาที่สน.พญาไท จากนั้นพ.ต.ท.โชติ เชิญ มารดา หมอมุก มาดูรถคันดังกล่าวพบว่าที่บริเวณกระจกด้านหน้าที่มีสติกเกอร์ผ่านเข้าออกกองทัพบกแผ่นที่แปะอยู่ด้านหน้าซ้ายเพียง 1 อัน เป็นบัตรผ่านเข้าออกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุทะเบียนรถ วค-1355 กทม. ส่วนรถคันก่อเหตุมีสติกเกอร์แปะอยู่ด้านหน้าจำนวนหลายแผ่นและบริเวณที่ปัดน้ำฝนมีสีไม่เท่ากันเหมือนเพิ่งเปลี่ยนมาใหม่ นอกนั้นตัวรถเหมือนกับรถคันก่อเหตุมาก
ด้าน พ.ต.ท.โชติ กล่าวว่า วันนี้ได้นัดแม่หมอมุกมาสอบปากคำเพิ่มเติมในวันที่เกิดเหตุถึงรูปพรรณสันนิษฐานคนร้ายและรถคันก่อเหตุ เพิ่มเติมส่วนด้านการดำเนินคดี ตอนนี้สอบปากคำพยานที่เกิดเหตุและผู้เสียหายและประสานงานทางกองทัพไทยส่งรถมาให้ตรวจสอบ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะอายัดรถไว้เพื่อส่งตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้และแจ้งข้อหาเจตนาทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยประประสงค์ต่อชีวิต เข้าข่ายคดีอาญาพยายามฆ่า แต่ต้องรอดูอาการบาดเจ็บของหมอมุกว่ามากน้อยแค่ไหน
สำหรับ พล.ต.พิสุทธิ์ เปาอินทร์ กล่าวว่า รถคันนี้เบิกจากกรมยุทธบริการ มาใช้งานในสำนักงานปลัดบัญชีทหารส่วนขั้นตอนการนำรถออกไปใช้ต้องมีการลงชื่อเบิกไปทุกครั้ง มีเจ้าหน้าที่ควบคุมอยู่ เท่าที่ทราบจากทหารที่ดูแลรถคันนี้อยู่แจ้งว่ารถคันดังกล่าวเกิดมีปัญหาในเรื่องหม้อน้ำรั่วซึมตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้วและใช้วิ่งอยู่แค่ภายในกรมเท่านั้นไม่ได้ออกไปไหน
พล.ท.อุดม พูลสวัสดิ์ เจ้ากรมยุทธ กล่าวถึงกรณีรถนิสสันทะเบียน วค-1355 ว่า ยอมรับว่าเป็นของกรมยุทธบริการทหาร บก.ทหารสูงสุดจริง เป็นรถที่อยู่ในบัญชีควบคุม ซึ่งรถทั้งหมดของบก.ทหารสูงสุดจะขึ้นทะเบียนไว้ที่ กรมยุทธบริการทหาร และแจกจ่ายไปยังหน่วยต่างในสังกัด ส่วนรถที่เกิดเหตุขึ้นบัญชีไว้ที่ สังกัดสำนักงานปลัดบัญชีทหาร บก.ทหารสูงสุด โดยส่งมอบไปเมื่อปี 2550 และได้ทำเรื่องของใช้จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการส่งคืนแต่อย่างใด ซึ่งรถของกรมยุทธบริการทหารมีบัญชีควบคุมอยู่ 5,000 คัน เพราะฉะนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับหน่วยของตน
ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) ร.ต.ท.สุดประเสริฐ หลัดทอง พนักงานสอบสวน(สบ 1) สน.พญาไท ได้ส่งรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นซันนี่ นีโอ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน วค1355 กรุงเทพมหานคร รถเก๋งต้องสงสัยขับพุ่งชน พ.ต.แพทย์หญิง หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก มาตรวจพิสูจน์หาร่องรอยการชน นอกจากนี้ได้ส่งที่ปัดน้ำฝนซึ่งพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่าเป็นของรถคันที่ชน พ.ต.แพทย์หญิง หทัยพร มาตรวจเปรียบเทียบกับรถต้องสงสัย
พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่ารถคันนี้ใช้ในการก่อเหตุหรือไม่ อย่างไรก็ตามทราบจากทหารที่นำรถมาว่าเป็นรถใช้ในราชการทางธุรการ และจอดอยู่ภายในสำนักงานปลัดบัญชี กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งรถหม้อน้ำรั่ว จอดอยู่ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา เมื่อพนักงานสอบสวนส่งมาให้ตรวจ ทางเจ้าหน้าที่สพฐ.ตร.จะทำการตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝงของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะของ พ.ต.แพทย์หญิงหทัยพร นอกจากนี้ ตรวจเปรียบเทียบที่ปัดน้ำฝนที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ ว่ามีความเก่าหรือใหม่เท่ากันทั้ง 2ข้างหรือไม่.
ที่มา เดลินิวส์