วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

"The Social Network" เรื่องจริงหรือหลอก

แฟ้มภาพตัวละครใน The Social Network เทียบกับบุคคลที่มีตัวตนจริงในสหรัฐฯ
ไม่น่าแปลกใจที่ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กจะคอยย้ำหนักหนาว่าภาพยนตร์เรื่อง "The Social Network" เป็นเรื่องแต่งที่เฟซบุ๊ก (Facebook) ไม่มีส่วนร่วมใดๆ และขอให้นักข่าว-นักเขียนเลือกใช้ข้อมูลที่ถูกต้องเมื่อต้องการเขียนถึงเฟซบุ๊ก

เพราะมีโอกาสสูงมากที่ผู้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้จะเผลอคิดว่านี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นระหว่างการก่อร่างสร้างตัวของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมชื่อดังอย่างเฟซบุ๊ก

ประวัติศาสตร์เฟซบุ๊กระบุไว้อยู่แล้วว่า ก่อนจะมี Facebook ตัว Zuckerberg ได้สร้างเว็บไซต์ Facemash เมื่อศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ซึ่งเป็นช่วงที่ Zuckerberg กินเหล้า-เบียร์เพราะการผิดหวังจากแฟนสาว และเริ่มระบายออกด้วยการเขียน Blog พร้อมกับการสร้างเพจสังคมสำหรับหอพักของ Zuckerberg เอง

ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เริ่มขึ้นที่ช่วงเวลานี้เช่นกัน ข้อมูลและภาพยนตร์ระบุตรงกันว่าตอนนั้น Zuckerberg มองว่ารูปถ่ายบางรูปแปลกประหลาดมากจนสามารถนำไปเปรียบเทียบกับพวกสัตว์ต่างๆได้ จุดเริ่มต้นของ Facemash จึงเกิดขึ้นในฐานะเว็บไซต์ที่นำรูปของนักศึกษาจากหอพักทั้งหมด 9 หอ มาเขียนโปรแกรมสุ่มรูปขึ้นมาคู่กันสองรูป แล้วให้คนโหวตว่าใครสวยกว่ากัน

แน่นอนว่า Zuckerberg ไม่ได้เดินไปขอรูปมาจากนักศึกษาตัวต่อตัว แต่ใช้วิธีเจาะระบบคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยเพื่อคัดลอกรูปทั้งหมด

อย่างที่ทุกคนรู้กันดี Facemash เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงมีผู้เข้ามาร่วมสนุกมากกว่า 400 คน รูปมากกว่า 22,000 รูป ถูกเรียกดูขึ้นมาประชันกันอย่างรวดเร็ว และไม่กี่วันต่อมา มหาวิทยาลัยลงดาบปิดเว็บไซต์ Facemash แล้วสอบสวน Zuckerberg ในข้อหาละเมิดความเป็นส่วนตัวและจงใจลักลอบเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในทางที่ผิด Zuckerberg หวิดถูกไล่ออกจน The facebook ได้ถือกำเนิดขึ้นในภาคเรียนต่อมา

ข้อมูลระบุว่า Zuckerberg เริ่มสร้าง The facebook เพราะได้รับแรงบันดาลใจจากบทความในหนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัยที่รายงานถึง Facemash โดยบทความนั้นกล่าวว่า "แท้จริงแล้ว เว็บไซต์ส่วนกลางลักษณะนี้น่าจะมีประโยชน์มากมาย"
มีหลักฐานว่า Zuckerberg เคยพูดถึง The facebook ว่ามหาวิทยาลัยต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะทำระบบลักษณะนี้ขึ้นมาได้ แต่ตัวเค้าสามารถทำได้ดีกว่าในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว แน่นอนว่าประโยคนี้ก็ปรากฏในภาพยนตร์ด้วย โดยเรื่องจริงคือภายในเวลา 24 ชั่วโมง The facebook มีสมาชิกเข้ามาลงทะเบียนถล่มทลายถึง 1,500 คน

ในปี 2005 คำว่า The ถูกถอดออกจากชื่อ The facebook ชื่อโดเมน facebook.com จึงเป็นยูอาร์แอลที่ผู้ใช้คุ้นเคยในวันนี้

ฐานเรื่องเหล่านี้ปรากฏอยู่ใน The Social Network แต่ในรายละเอียด Eduardo Saverin ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลในหนังสือเรื่อง The Accidental Billionaires: The Founding Of Facebook, A Tale of Sex, Money, Genius, and Betrayal ว่าด้วยเรื่องการก่อตั้ง Facebook เซ็กซ์ เงิน อัจฉริยะ และการทรยศ) เขียนโดย Ben Mezrich ที่ถูกดัดแปลงจนกลายเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ยืนยันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงล้วนๆ

Saverin ให้ความเห็นหลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์ว่า การที่ใครพูดอะไรกับใครจนทำให้เกิดเหตุการณ์ใดในเรื่องจะเป็นความจริงหรือไม่นั้น ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือบทเรียนของการเป็นผู้ประกอบการที่มีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งแม้จะซับซ้อน ยุ่งยาก และทรมานในการดำเนินงานเพียงไร สิ่งเหล่านี้ก็จะยังเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดของธุรกิจในวันนี้ นำไปสู่การเติบโตของระบบเศรษฐกิจโลก

ดูเหมือนว่านี่คือหนึ่งในหลายสิ่งที่ผู้กำกับ David Fincher (ผู้กำกับ Fight Club, Panic Room และ The Curious Case of Benjamin Button) ต้องการให้ผู้ชมได้เห็นใน The Social Network ยังไม่รวมความเป็น"คนจริง"ที่ชัดเจนของ Zuckerberg ซึ่งฉายแววจรัสแสงโดยไม่ต้องใช้เวลากล่อมเกลา ความสำเร็จของเฟซบุ๊กที่สื่อผ่านคำว่า "ประเทศที่ไม่มีถนน ยังมีเฟซบุ๊ก" ความโดดเดี่ยวไร้เพื่อนสนิทของผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก รวมถึงแนวคิดที่ว่า "สร้างเทพต้องสร้างมารก่อน"

อย่าหวังว่า The Social Network จะให้คำตอบว่า Zuckerberg คือเทพหรือมาร หรือ Zuckerberg สร้าง Facebook เพราะต้องการผู้หญิงหรืออำนาจจริงหรือไม่ แต่ให้หวังว่า The Social Network จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้ไม่มากก็น้อย

ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์