ถ้าท้องจะเก็บลูกไว้ 'ทราย เจริญปุระ' โวยลั่น ไม่มีทางทำอะไรชุ่ย ๆ แน่
ประกาศท้าสาบาน ตั๊ก-บงกช คงมาลัย ลั่นไม่เคยทำแท้งหลังตกเป็น 1 ดาราดังที่ผู้ต้องหาอ้างเคยใช้บริการ ระบุหากตั้งท้องจะเก็บเด็กไว้ ย้อนถามจะทำทำไม ในเมื่อทุกวันนี้รับเลี้ยงลูกบุญธรรมไว้ตั้ง 2 คน เปรยใจอยากเป็นแม่คนอยู่แล้ว สุดเดือดสาปส่งประหารชีวิตผู้ต้องหา เช่นเดียวกับ “ทราย เจริญปุระ” ส่ายหัวไม่เคยเกี่ยวข้อง ย้ำไม่มีแฟนมา 3-4 ปี แล้วจะไปท้องกับใคร “จุรินทร์” เตือน รพ.ออกใบรับรองให้หญิงทำแท้งเถื่อนไปแจ้งเกิดถือว่าออกใบรับรองเท็จ ขณะที่ “วัดพระยาไกร” โล่งอกยกสำนวนคดีใหญ่ให้ “หนองแขม” รับไปดำเนินการต่อ เหตุต้นทางของคดี
ข่าวสลดหดหู่พบซากทารก 348 ศพ จากการทำแท้งโผล่ในวัดกลางกรุงฯ เตรียมรอทำลายทิ้ง กลายเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ประชาชนต่างพากันให้ความสนใจอยากรู้ว่า 2 นางเอกสาว อักษรย่อที่ถูกพาดพิงถึงคือ “ต กับ ท” กับอีก 1 นางแบบชื่อดัง อักษรย่อ “น” ด้านกระทรวง สาธารณสุข สั่งล้อมคอกกวาดล้างคลินิกทำแท้งเถื่อนทันที ส่วนเรื่องคดีหลังจากตำรวจบุกจับกุม น.ส.รัญฉกร จันทมนัส อายุ 33 ปี ผู้ช่วยพยาบาล เปิดให้บริการทำแท้งย่านหนองแขม ให้การรับสารภาพว่า นำซากทารกไปจ้างให้สัปเหร่อวัดไผ่เงินทำลาย ทั้งนี้ได้อุปการะเด็ก ๆ หลายคน ซึ่งเป็นลูก ของลูกค้าที่มาใช้บริการทำแท้ง แต่เด็กไม่เสียชีวิต เนื่องจากสงสารจึงเลี้ยงจนเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเรื่องนี้เจ้าหน้าที่กำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเด็ก ๆ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เตือนรพ.ออกใบรับรองเท็จ
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 18 พ.ย. นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นได้มอบให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ในฐานะที่กำกับ ดูแลสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ไปประสานกับทางตำรวจเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิดแล้ว ถามว่ากรณีที่มีการทำแท้งแล้วเด็กไม่ตายรอดมาได้แล้วทางหญิงที่ให้บริการทำแท้งไปแจ้งเกิดเป็นลูกของตัวเอง ซึ่งอาจจะมีการแจ้งเกิดเท็จนั้น นายจุรินทร์ ตอบว่า ปกติหากคลอดใน รพ.ก็จะมีใบรับรองจากทาง รพ. เพื่อไปแจ้งเกิด ยกเว้นคลอดที่ร้าน ดังนั้นถ้าไม่ได้ไปคลอดที่ รพ. แล้วทาง รพ. ออกใบรับรองให้ก็ถือว่าออกใบรับรองเท็จทาง รพ. จะต้องรับผิดชอบเข้าข่ายมาตรา 73 อย่างไรก็ตามในการทำแท้งนั้นต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น และต้องมีข้อบ่งชี้ คือหากเก็บเด็กไว้อาจจะเป็นอันตรายต่อแม่ หรือถูกข่มขืน โดยเรื่องนี้มีหลักเกณฑ์กำหนดอยู่แล้ว
สั่งวัดทั่วประเทศระวังเผามั่ว
ด้านนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า จากกรณีมีการพบซากศพทารกซุกซ่อนภายในโกดังเก็บศพของวัดไผ่เงินโชตนารามนั้น ทาง พศ. ในฐานะดูแลวัดทั่วประเทศมอบหมายให้สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) ทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังเจ้าคณะปกครองเพื่อแจ้งให้วัดที่มีฌาปนสถานให้ความระมัดระวัง กรณีที่อาจจะมีคนแอบนำศพมาเผาโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง การเผาศพต้องมีใบมรณบัตรและมีชื่อของบุคคลที่นำมาเผา นอกจากนี้ทางวัดจะต้องมีการดูแลสัปเหร่อ ไม่ควรปล่อยให้ทำงานโดยลำพัง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น มองว่าเป็นการลักลอบนำศพทารกเข้ามาเผา เพราะจากที่ได้สอบถามไปยังเจ้าอาวาสวัดแล้วไม่ทราบเรื่องดังกล่าว
“ตั๊ก”ปฏิเสธไม่เคยทำแท้ง
ขณะที่คนในวงการบันเทิงต่างรีบ ออกมาให้สัมภาษณ์ประเด็นร้อนทันที เริ่มจากนักแสดงสาวทรงโต ตั๊ก-บงกช คงมาลัย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับโทรทัศน์ช่องหนึ่งว่า “หลังจากอ่านข่าวแล้วตกใจมาก อยากให้แม่เข้าใจเรื่องนี้ด้วย ยังเสียใจกับข่าวที่เกิดขึ้นอยู่ ยืนยันว่าไม่เคยไปแถวนั้นด้วยซ้ำ ที่เขาบอกว่ามีชื่อตั๊กไปทำแท้งนั้น ถ้าอย่างนั้นตำรวจก็ต้องมาจับตั๊กสิ เพราะคนที่ทำแท้งต้องได้รับโทษมีความผิดด้วย แต่นี่ทางตำรวจยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาเลย เพราะไม่มีหลักฐานอะไร เป็นการพูดลอย ๆ ว่ามีตั๊กเป็นหนึ่งในนั้นเท่านั้น เรื่องจะฟ้องกรณีที่มีสื่อเขียนข่าวดาราเซ็กซี่ ชื่อย่อ ต. มีแฟนเป็นนักร้องฮิปฮอป คือ มีหลายคนเซ็กซี่กว่าตั๊ก แล้วคนที่มีแฟนเป็นฮิปฮอปก็เยอะ แม่บอกว่าถ้าไปฟ้องคงไม่ดี เพราะเป็นแค่ชื่อย่อ ไม่ได้หมายถึงตั๊ก”
เดือดท้าสาบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ถามว่ากล้าสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ นักแสดงสาวกล่าวว่า กล้าสาบานแน่นอน ถ้าตนท้องจะเก็บลูกไว้จะไปทำแท้งทำไม ทุกวันนี้ตนเลี้ยงเด็กที่ขอมาเลี้ยงไว้ 2 คน ถ้าเกิดเลี้ยงเด็ก 2 คนได้ ตนจะเลี้ยงลูกตัวเองไม่ได้เหรอ ในเมื่อตนเป็นคนเซ็นรับเขาเป็นลูกบุญธรรม ถ้าไม่อยากเป็นแม่คน จะเอาเด็กมาเลี้ยงทำไม อยากบอกว่ารู้สึกแย่มากที่รู้ข่าวมีคนทำแท้งเด็ก 300 กว่าคนตาย ถ้าให้ตนแสดงความคิดเห็น ตนอยากให้เขาถูกประหารชีวิตเลยนะ อีกอย่างตนคงไม่ฟ้องร้อง เพราะไม่รู้ว่าพูดถึงตนจริงหรือไม่ แต่ในเมื่อนักข่าวมาถามตนเพราะมีชื่ออยู่ ตนก็ต้องออกมาปฏิเสธปกป้องตัวเอง คนทำผิดก็ต้องได้รับผลกรรมอยู่แล้ว ตนแคร์คนรอบข้าง และประชาชนที่เชื่อใจตนมากกว่า
เปิดตัว 2 เด็กลูกบุญธรรม
แม่นางเอกสาว กล่าวต่อว่า “ตัวตั๊กเองก็งงช่วงนี้เขากลับตัวแล้ว ไม่เที่ยวเตร็ดเตร่ ดูแลแม่อย่างเดียว เขาตกใจมาก แต่โชคดีใจเย็นไม่อารมณ์ร้อนแล้ว อีกอย่างตอนนี้ตั๊กรับเด็กมาเลี้ยง 2 คน คือน้องทราย-ด.ญ.ปิยะวรรณ อายุ 12 ขวบ และน้องน้ำหวาน-ด.ญ.เพชรรินทร์ วัย 2 ขวบ 3 เดือน อย่างน้องน้ำหวานตั๊กไปขอแม่ จริง ๆ ซึ่งพักที่ จ.สุพรรณบุรี ตอนที่แม่น้องน้ำหวานคิดจะทำแท้งตอนอายุ 14 ปี ยังไม่พร้อม ตั๊กเป็นคนไปขอว่าอย่าทำแท้งเลย เขาเลยขอเด็กมาเลี้ยงเอง ดังนั้นไม่มีทางที่ตั๊กจะไปทำแท้งแน่นอน บ้านแม่รักเด็กมาก อยากวอนให้มองตั๊กในแง่ดีกันบ้าง ตอนนี้ลูกแม่ไม่ค่อยมีข่าวแล้ว ล่าสุดเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา แม่น้องน้ำหวานตั้งท้องคลอดเด็กออกมาอายุเกือบ 9 เดือน เป็นเด็กผู้หญิง ตั๊กยังขอแม่ว่าจะขอเด็กคนนั้นมาเลี้ยงอีกคน แต่แม่บอกว่าแม่เลี้ยงไม่ไหว เพราะแม่เองก็ป่วย พอแค่นี้เหอะ”
“ทราย”จวกไร้แฟนท้องได้ไง
ด้านทราย เจริญปุระ นางเอกสาวชื่อดังเปิดเผยหลังอักษรย่อไปตรงกับชื่อตัวเองว่า ตนเชื่อว่าคนที่พูดไม่น่าจะหมายถึงตนแน่นอน คนคงจะไปคิดต่อกันเองมากกว่า ตนไม่ได้ทำแน่นอน ถ้ามีแฟนคงจะดูน่าเชื่อกว่านี้ แต่ตนไม่มีแฟนมา 3-4 ปี แล้วจะไปท้องกับอะไร หรือบางคนอาจมองว่าเคยทำก่อนหน้านี้หรือเปล่า ตนก็ขอบอกตามตรงว่าไม่มีแนวโน้มที่จะทำอะไรชุ่ย ๆ กับชีวิตแน่นอน คนใกล้ชิดหรือคนรู้จักที่ได้ยินข่าวนี้จะขำ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้จักตนก็ไม่รู้จะไปอธิบายให้เขาเชื่อได้อย่างไร กลัวจะหาว่าแก้ตัว
กิ๊บซี่”เตือนสติคนบันเทิง
ขณะที่กิ๊บซี่-วนิดา เติมธนาภรณ์ นักร้องวงเกิร์ลลี่เบอร์รี่ กล่าวว่า “ข่าวการทำแท้งมีมานานแล้ว เป็นเรื่องอันตรายมาก ข่าวที่ว่ามีคนวงการบันเทิงไปทำแท้งนั้น ไม่อยากให้ตัดสินหรือมองว่าวงการบันเทิงแย่ มองที่การกระทำของบุคคลดีกว่า คนในวงการก็คือมนุษย์ทั่วไป แต่คนในวงการบันเทิงจะเป็นที่จับตามอง และตกเป็นกระแสข่าวได้ง่าย กิ๊บเชื่อว่าวงการไหน ๆ ก็มีเหมือนกัน ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นหรือลดน้อยลงขึ้นอยู่กับการป้องกัน การตัดสินใจและความรับผิดชอบมากกว่า อยากฝากถึงทุกคนว่าจะคิดหรือทำอะไร ต้องรอบคอบ และมีสติ”
เค้นสอบคนดูแลศาลาวัดฯ
ส่วนความคืบหน้าเรื่องคดี ที่โรงพักวัดพระยาไกร วันเดียวกัน ตำรวจได้สอบปากคำนายสุชาติ ภูมี อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลศาลาพิธีในวัดไผ่เงินโชตินาราม 1 ใน ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวพันนำศพทารก 348 ศพมาทิ้งภายในโกดังเก็บศพวัดฯ โดยนายสุชาติให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นลูกของผู้ช่วยสัปเหร่อวัดดังกล่าว เป็นคนแรกที่ได้รับการ ติดต่อจาก น.ส.รัญฉกรให้นำศพทารกมาทิ้ง เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยแห่งหนึ่ง มีศูนย์ตั้งอยู่ใกล้กับคลินิกรับทำแท้งของผู้ต้องหา ประกอบกับญาติของ น.ส.รัญฉกรก็เป็นหัวหน้าศูนย์ ทำให้คุ้นเคยกัน โดย น.ส.รัญฉกรมีครอบครัวแต่ไม่มีบุตร ต่อมาตนลาออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย มาช่วยงานที่วัดฯแต่ก็ยังไม่ขาดการติดต่อกับทางมูลนิธิฯ
สารภาพได้ค่าจ้างครั้งละ 200
กระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา น.ส.รัญฉกร ติดต่อกับตนให้ช่วยหาสถานที่ทิ้งศพทารก ตกลงจะให้ค่าจ้างครั้งละ 200 บาท ทุกครั้งน.ส.รัญฉกรจะหิ้วถุง 3-4 ถุง ซ้อน จยย. มาส่งให้ที่หน้าวัด เมื่อรับเสร็จก็เอาไปทิ้งในช่องเก็บศพ หากไม่เจอตนก็จะให้นายสุเทพ ชะบางบอน สัปเหร่อวัดฯ นำไปทิ้งแทน ทั้งนี้ตนไม่เคยคิดจะเอาศพไปเผาทำลาย กำลังคิดว่าจะเลิกด้วยซ้ำไป เนื่องจากกลัวบาปกรรมแต่เรื่องมาแดงขึ้นก่อน ส่วนเรื่องที่ น.ส.รัญฉกร ให้การว่ารับเลี้ยงเด็กที่รอดชีวิตจากการทำแท้งไว้ 8 คนนั้น เป็นเรื่องจริง เพราะตนเคยเห็นเด็กเหล่านั้นเคยคิดจะขอรับน้องไฟว์ เด็กผู้ชาย อายุ 5 ขวบ หน้าตาน่ารักมาอุปการะ แต่ช่วงหลังไม่ได้พบเด็ก ๆ อีก คาดว่าผู้ต้องหาน่าจะส่งเด็กทั้งหมดไปให้ญาติเลี้ยงที่ จ.นครปฐม ตนเคยถาม น.ส.รัญฉกร เกี่ยวกับเอกสารการเกิดของเด็ก ๆ เจ้าตัวก็บอกว่ามีผู้รับจ้างดำเนินการให้ อย่างไรก็ตามตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น ตนคิดจะรับสารภาพกับตำรวจแต่เกรงความผิด จนมาเห็นพ่อแม่และบุคคลรอบข้างต้องเดือดร้อน ประกอบกับตำรวจยืนยันว่าจะกันตนไว้เป็นพยานตนจึงตัดสินใจสารภาพความจริงดังกล่าว
ไม่แจ้งข้อหากันไว้เป็นพยาน
พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้จับกุมตัว น.ส.รัญฉกร ได้ในท้องที่ สน.หนองแขม ขั้นตอนหลังจากนี้ตนสั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องส่งให้พนักงานสอบสวน สน.หนองแขม รับโอนไปดำเนินการต่อ เนื่องจากเป็นท้องที่ต้นทาง คดีลักลอบเปิดคลินิกทำแท้งเถื่อน และลักลอบทำแท้งโดยไม่ได้รับอนุญาตเพราะพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าศพที่ถูกนำมาทิ้งที่สุสานวัดไผ่เงิน บางส่วนมาจากคลินิกของผู้ต้องหา และบางส่วนมาจากคลินิกทำแท้งเถื่อนย่านชานเมือง ที่เป็นเครือข่ายของผู้ต้องหา คงเป็นหน้าที่พนักงานสอบสวน สน.หนอง แขม ที่จะสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายศาลที่มีอำนาจออกหมายค้นต่อไป สำหรับนายสุเทพ และนายสุชาติ ซึ่งได้กันไว้เป็นพยาน ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อหา คงต้องรอผลการสอบสวนผู้ต้องหาคือนางรัญฉกร ว่าให้การพาดพิงถึงทั้ง 2 รายด้วยหรือไม่ จึงจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.หนองแขม สอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
แจ้ง3ข้อหามือรีดมารหัวขน
ที่ สน.หนองแขม เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว น.ส.รัญฉกร ออกจากห้องขังมาพิมพ์ลายนิ้วมือส่งกองทะเบียนประวัติอาชญากร โดย น.ส.รัญฉกร ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เปิดเผยถึงเรื่องราวทั้งหมดไปแล้ว ทั้งนี้หลังเสร็จ พ.ต.ท.สมธิชัย กลีบบัว สวส.เจ้าของคดีได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาบดี จ.นครปฐม เดินทางมาเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับเด็กที่รอดชีวิตจากการทำแท้งทั้ง 7 คน โดยพบว่าเด็กอยู่กับแม่ผู้ต้องหา 4 คน ญาติผู้ต้องหา 2 คน และอยู่กับผู้ต้องหาอีก 1 คน โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงเดินทางกลับไปดูสภาพเด็ก ๆ ที่ จ.นครปฐม เพื่อให้การช่วยเหลือพร้อมน้องสาวของผู้ต้องหา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้ง 3 ข้อหาคือ 1. เปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ประกอบโรคศิลปะโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 3. ทำแท้งโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเวลา 09.00 น. วันที่ 19 พ.ย.นี้ ตำรวจจะนำตัว น.ส.รัญฉกร ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน พร้อมยื่นคัดค้านประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่เป็นที่สนใจของประชาชน เกรงว่าจะมีผลต่อคดี
พัฒนาสังคมฯเยี่ยมเด็กรอดชีวิต
เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม และสวัสดิ การบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนคร ปฐม กล่าวภายหลังการพูดคุยกับผู้ต้องหาว่า วันนี้มาเพื่อต้องการช่วยเหลือดูแลเด็กที่อยู่ในความดูแลของผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหาเล่าว่าเด็กที่อยู่ในความอุปการะมีทั้งหมด 7 คน อายุระหว่าง 9 เดือน-8 ปี โดยการอุปการะของมารดาผู้ต้องหา 4 คน อยู่ที่บ้าน อ.นครไชยศรี จ.นครปฐม โดยผู้ต้องหายืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าจะขอเลี้ยงดูเอง ซึ่งทางผู้ต้องหาแจ้งว่าหลังเด็กรอดชีวิตก็ได้แจ้งเป็นมารดาเอง ซึ่งสภาพความเป็นอยู่ของเด็กโดยเฉพาะเด็กที่อายุ 8 ขวบนั้น ผู้ต้องหาได้เลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนหนังสือขณะนี้ศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ส่วนเด็กอีกสองคนผู้ต้องหาแจ้งว่าพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตหนองแขม ส่วนอีกคนผู้ต้องหาเลี้ยงดูไว้เอง
ลั่นไม่ให้ใครเอาไปเลี้ยงเด็ดขาด
เย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 6/5 หมู่ 4 ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม หลังทราบว่าเป็นบ้านที่รับเด็กซึ่งรอดชีวิตจากการทำแท้ง เมื่อไปถึงพบนางสมบัติ สิโนทก อายุ 60 ปี แม่ น.ส. รัญฉกร อาชีพเผากะลามะพร้าวทำถ่าน พร้อมเด็กผู้ชาย 4 คน คนโตชื่อน้องฟราน 9 ขวบ ชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง 2. น้องเฟิสร์ 7 ขวบ ป.1 3. น้องโฟม 6 ขวบ อนุบาล 2 และ 4. น้องจืด อายุ 9 เดือน ทั้งหมดเมื่อเห็นกลุ่มผู้สื่อข่าวต่างรีบโผกอดนางสมบัติ โดยนางสมบัติ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกสาวตนนำเด็กพวกนี้มาฝากเลี้ยง ตนไม่ทราบที่มาที่ไปของเด็ก ขอย้ำว่าจะไม่ให้ใครเอาเด็กไปเด็ดขาด หากจะเอาไปก็ต้องฆ่าตนก่อน จะให้ไปดำเนินการอย่างไรให้ถูกต้องก็บอกมา ตนพร้อมจะทำให้อย่าเอาเด็กไปเลย ตนส่งเสียให้เรียน รักเหมือนลูกทุกคน อยาก เกาะชายผ้าเหลืองมาก ขอร้องอย่านำภาพเด็ก ๆ ไปลงเลยโตขึ้นเด็กอาจมีปมด้อยได้.
ที่มา เดลินิวส์