สุภาพบุรุษ-ปีศาจ ในร่างเดียว ฮอนด้า CR-Z เห็นรูปร่างหน้าตาแบบนี้ ไม่แปลกใจหรอก หากมันจะดูเด่นสุดบนท้องถนนเมืองไทยตอนนี้ นั่นเพราะมันนำเข้ามาขายจำนวนไม่มากมาย เจ้านี่คือ ฮอนด้า CR-Z ซึ่งเราเคยนำเสนอในคอลัมน์โชว์รูม 360 องศากันไปเมื่อเร็วๆ นี้ แต่คราวนี้ผมได้ขับจริงบนถนนจริง แล้วมันก็โดนจริงๆ เสียด้วย
มันก็สมควรโดน เพราะหน้าตามันทันสมัยออกขนาดนี้ ไม่ใช่รูปโฉมภายนอกเท่านั้น ด้านในพอๆ กัน คอนโซลหน้ามีลูกเล่นเยอะแยะไปหมด แถมมาตรวัดต่างๆ ก็แต่งเติมลูกเล่น ให้มิติมากกว่า คอนโซลรถที่คุ้นตาทั่วไป
ยิ่งว่ากันถึงเรื่องเทคโนโลยีที่ใส่เข้าไป โดยเฉพาะระบบขับเคลื่อนที่ใช้เรียกว่า ไฮบริด ยิ่งเพิ่มอรรถรสในการขับได้อย่างมีรสชาติ ผมว่ามันขับได้อร่อยดี เป็นคำเปรียบเปรยนะครับ
CR-Z ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 113 แรงม้า แรงบิดสูงสุดแค่ 114 นิวตันเมตร แต่เมื่อรวมกับมอเตอร์ไฟฟ้า MF6 ของฮอนด้าได้เพิ่มอีก 14 แรงม้า และแรงบิด 78 นิวตันเมตร ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้มันแรงได้ใจ พอๆ กับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร
ทุกครั้งที่เติมน้ำหนักลงคันเร่ง มันจะมีทั้งพละกำลังจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมๆ กัน ขับสนุกเร้าใจจนลืมไปเลยว่า แล้วใครจะมองทัน ข้อดีของมันคือ มีโหมดการขับให้เลือก 3 แบบคือ ประหยัด (ECON) ปรกติ (NORMAL) และสปอร์ต (SPORT)
แต่ละโหมดทั้งเครื่องยนต์ และช่วงล่างจะถูกปรับให้สัมพันธ์กัน โหมดประหยัด แน่นอนรอบเครื่องยนต์ถูกปรับขึ้นและลงอย่างนิ่มนวล ด้วยการผสมของเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 7 สปีด ช่วงล่างนุ่มนวลมาก วงกลมตรงกลางมาตรวัดความเร็วจะแสดงออกเป็นสีเขียว โหมดปรกตินั้นแสดงเป็นสีฟ้าปรับเป็นโหมดนี้ก็คือ ขับขี่ทั่วไป อัตราเร่งไม่หวือหวานัก ความร้อนแรงมีอยู่บ้าง ช่วงล่างก็ยังให้ความนุ่มนวลในระดับที่ดี
ทั้งสองโหมดนี้ ไฟตรงกลางมาตรวัดความเร็วจะเปลี่ยนสีตามอัตราเร่ง ซึ่งหมายถึงความประหยัดที่ลดลง เมื่อคุณเรียกกำลังมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีขับแซงคันหน้า หรือขับขึ้นเนิน ขึ้นเขา แต่ถึงยังไงมันก็ยังประหยัดอยู่ดีเพราะถ้านับจริงๆ แล้วมันคือเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร
เอาหละ ถึงโหมดที่ผมอยากจะเรียกมันว่า ปีศาจ ท่าจะเหมาะสม โหมดสปอร์ต ไฟตรงกลางมาตรวัดเปลี่ยนเป็นสีแดง พร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่คำรามดังขึ้น ตั้งแต่ยังไม่ออกตัว และเมื่อคันเร่งถูกกดลง มันทำให้หัวใจกลับเป็นวัยรุ่นขึ้นมาพลัน ผมสามารถเร่งมันออกไปอย่างที่ใจคิด ช่วงล่างถูกปรับให้สัมพันธ์กัน แน่นอนมันแน่นขึ้น ซึ่งก็คือมันแข็งขึ้น ผมรับรู้ถึงรอยต่อของถนนได้อย่างชัดเจน แต่ก็ใช่ว่าจะขาดความนุ่มนวลเสียทีเดียว แต่นั่นเพราะมันปรับเพื่อให้การควบคุมง่ายขึ้นในสถานการณ์ที่เรียกว่า เปลี่ยนจากควบม้าเชื่องๆ เป็นม้าพยศยังไงยังงั้น กำลังจากเครื่องยนต์ถูกดึงมาใช้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าก็ช่วยอีกแรงโดยตลอด
ไฮบริดของฮอนด้า ต่างจากไฮบริดของโตโยต้า คัมรี่ ที่นำเสนอกันมาก ฮอนด้าใช้เครื่องยนต์เป็นหลัก มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นตัวสร้างกำลังเสริมโดยเฉพาะการเร่ง แต่เหมือนกันตรงที่เมื่อคุณเบรกพลังงานที่ได้จะถูกชาร์จไปเก็บเป็นพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอรี่ นิกเกิล ไฮดรายด้านหลังตัวรถ และเมื่อผมเบรกเพื่อให้รถหยุด บางครั้งที่พลังงานในแบตฯ เพียงพอ เครื่องยนต์จะหยุดทำงาน แต่ติดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อผมปล่อยเบรก
ใครจะว่ามันคือของเล่นเศรษฐี หรือเฟอร์นิเจอร์เคลื่อนที่ก็ได้ แต่สำหรับผม มันคือรถสปอร์ต ตอบสนองอารมย์ร้อนลุ่มในหัวใจวัยรุ่นยุคใหม่ได้ดีมาก เป็นสปอร์ตที่ไม่ซดน้ำมัน มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ความปลอดภัยเพียบพร้อม
ด้านราคาค่อนข้างแพงไปสักหน่อย เพราะเป็นรถนำเข้าทั้งคัน บีอาร์จี กรุ๊ป หนึ่งในเกรย์มาร์เกต ที่นำมันเข้ามาจำหน่ายตั้งราคาไว้ที่ 2,490,000 บาท แต่ช่วงนี้ใจดีลดให้ 200,000 บาท ถูกกว่ามินิ คูเปอร์นิดหน่อย ราคาแค่ครึ่งของสปอร์ตระดับ SLK หรือ Z4 แถมรุ่นที่จำหน่ายมีหลังคาแก้วเป็นออปชั่นอีกต่างหาก
ราคาคงไม่ใช่อุปสรรค หากใจอยากได้เจ้ารถที่เป็นทั้งสุภาพบุรุษ และปีศาจ ในร่างเดียวนี้...
ที่มาโดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์