ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.กาญจนา ได้ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า รายการเนวิเกเตอร์ ของนักแสดงชื่อดัง ที่ออกอากาศอยู่ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ติดต่อขอเข้ามาทำรายการทีวี
ในส่วนของเขตพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ซึ่งมีโซนพื้นที่อนุโลมให้เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ได้บางส่วน เป็นพื้นที่เปิดให้มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขียวและงานด้านวิจัยได้อยู่แล้ว และได้มีข้อตกลงในการให้เข้ามาถ่ายทำได้ในบางจุดเท่านั้น และได้เตือนตลอดว่าจุดไหนเข้าได้และเข้าไม่ได้ ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองป่า ปี 2535 ซึ่งตามข้อตกลงอนุโลมให้เฉพาะจุดผ่านเท่านั้น
แต่ต่อมาปัญหาก็เกิดขึ้น เมื่อทางรายการเข้าไปถ่ายทำในโซนที่ไม่ได้รับอนุญาต คือเข้าข่ายลักลอบเข้าไปในเขตหวงห้ามคือ ภูคิ้ง บริเวณ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่่ป่าที่เปราะบาง ตามกฎหมาย พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 ไม่สามารถให้ใครเข้าไปได้ แม้กระทั่งนักท่องเที่ยวหรือทำการใดๆ ได้ ซึ่งเป็นข้อตกลงแจ้งไว้ก่อนที่จะเข้ามาถ่ายทำรายการ แต่จะมาอ้างว่าไม่รู้ก็คงไม่ได้ สรุปคือทางรายการละเมิด พรบ.สงวนและคุ้มครองป่าและกระทำการผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ ดร.กาญจนา ยังเปิดเผยว่า หากมีการปล่อยให้ออกอากาศรายการออกอากาศเทปนี้ไป ทั้งเจ้าหน้าที่ เจ้าของพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว และรวมไปถึงอธิบดีกรมอุทยานฯ ล้วนแต่จะต้องมีความผิดทางวินัยร้ายแรงด้วยเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการทำความเข้าใจกับทางรายการกันแล้ว ก่อนหน้านี้มีรายการทางทีวีหลายรายการ ติดต่อเข้ามาถ่ายทำบริเวณดังกล่าว แต่ก็สามารถแจ้งข้อตกลงและสร้างความเข้าใจได้ตลอด รวมทั้งไม่เคยเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นเลย
ด้าน พ.ต.ท.ศรายุทธ ดาวแจ้ง พนักงานสอบสวน สภ.เกษตรสมบูรณ์ เปิดเผยว่า หลังได้มีการรับแจ้งจากตัวแทนรับมอบอำนาจจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพรรณพืช เข้าแจ้งว่ามาตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดี กับดาราชื่อดัง ติ๊ก เจษฎาภณณ์ ผลดี รายการเนวิเกเตอร์ ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน และลักลอบพื้นที่สงวนและคุ้มครองป่าบนภูคิ้ง โดยไม่ได้รับอนุญาต ล่าสุดอยู่ระหว่างขั้นตอนรวบรวมพยานฐานหลักทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อน คาดว่าประมาณเดือน ส.ค.นี้จะแล้วเสร็จ และจะออกหมายเรียก ติ๊ก เจษฎาภรณ์ มารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดเพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับรายการ เนวิเกเตอร์ เป็นรายการเชิงอนุรักษ์ป่าของนักแสดงชื่อดัง ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ที่จะนำเสนอรายการในรูปแบบเชิงอนุรักษ์ ออกอากาศทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งกรณีดังกล่าว นักแสดงหนุ่มเคยออกมาชี้แจงผ่านเว็บไซต์ชื่อดังอย่างพันทิพ พร้อมทั้งอธิบายว่า ทางทีมงานไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปในเขตที่ทางอทุยานไม่อนุญาต อีกทั้งประพฤติปฎิบัติอยู่ตามกรอบที่ทางอุทยานให้ไว้ทั้งหมด และไม่ได้มีการนำเสนอรายการในรูปแบบเชิงท่องเที่ยว แต่เป็นการปลูกฝังเิชิงอนุรักษ์ป่าและสัตว์ป่า โดยในขณะนี้กรณีดังกล่าว กลายเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจในโลกอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างมาก
ที่มา sanook.com
